รายการ หมอนอกกะลา
ตอน เมทาโลนิน
มีใครหลายคนนอนไม่หลับอยู่เป็นอาจิณแต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมตัวเองนอนไม่หลับ บางรายต้องใช้ยานอนหลับบ้างหรือหาเมทาโลนินมากินบ้างเพื่อให้นอนหลับ บางคนกินยาซึ่งไปลดการสร้างเมทาโลนินแต่ไม่รับรับคำชี้แจงจากผู้ดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง
!!!งั้นมาทำความรู้จักให้จบๆกันไปเลยดีกว่า
เมลาโทนินเป็นสารสื่อประสาทที่สังเคราะห์จากกรดอะมิโนแอล-ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ต้องได้รับจากสารอาหารและการสร้างเมลาโทนินจะเป็นวัฏจักรที่ถูกกระตุ้นด้วยความมืดในเวลากลางคืน โดยพบว่ามีระดับสูงสุดในช่วงเวลา 02.00–04.00 น. และจะลดต่ำลงจนมีระดับต่ำสุดในช่วงเวลากลางวันเนื่องจากถูกยับยั้งการสร้างโดยแสงสว่าง
ปัจจุบันได้มีการนำเมลาโทนินมาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรักษาอาการนอนหลับที่ผิดปกติทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ บรรเทาและป้องกันอาการปวดหัวจากไมเกรนและกลุ่มโรคที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะรวมถึงป้องกันการเมาเวลาจากการบิน (jetlag)
ปัจจัยที่ทำให้ เมลาโทนิน ในร่างกายลดลง
ยาบางตัวรวมถึงยาแก้ปวดในกลุ่มไม่มีสเตียรอยด์ (NSAIDS) ซึ่งมีขายอยู่ทั่วไป มีผลต่อการลดการสร้างเมลาโทนินของสมอง ยาแอสไพริน ขนาดมาตรฐานเพียงหนึ่งเม็ด สามารถลดการสร้างเมลาโทนินลงได้มากถึง 75% ซึ่งหากคุณรับประทาน ยาเหล่านี้อยู่ให้พยายามรับประทานในมื้อสุดท้ายคือ หลังอาหารเย็น ยาอื่นๆ ที่มีผลยับยั้งการสร้างเมลาโทนินของสมอง เช่น ยานอนหลับพวกแวเลียมและซาแนกซ์ กาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาแก้หวัด ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันกลุ่มเบตาบล็อกเกอร์หรือแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ยาลดความอ้วนและสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซน
ข้อควรระวัง: เมลาโทนิน อาจทำให้คุณง่วงมากและควรรับประทาน ก่อนเข้านอน ไม่ควรขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักร หลังจากรับประทานเข้าไป หากคุณรับประทานยาอื่นเป็นประจำ มีโรคประจำตัว กำลังตั้งครรภ์ หรือขณะให้นมบุตร เป็นเบาหวาน มีปัญหาฮอร์โมนไม่สมดุลจากโรคอื่นหรืออยู่ในวัยหมดประจำเดือนที่กำลังรับฮอร์โมนทดแทน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมลาโทนินเนื่องจากเมลาโทนินอาจไปกระตุ้นภูมิกันของคุณมากเกินไปได้
คำเตือน: ผู้ที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้นกันต่อต้านร่างกายตัวเองหรือขณะรับประทานยากดภูมิคุ้มกันอยู่ไม่ควรรับประทานเมลาโทนินอย่างเด็ดขาด
:เมทาโลนินสังเคราะห์ กินติดต่อกันได้ไม่เกินสามเดือน
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
วิตามินไบเบิล: ดร.เอิร์ล มินเดลล์
ผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2557