รายการ หมอนอกกะลา
ตอน ผลไม้ที่ดีที่สุดในโลก น้ำตาลเท่ากับศูนย์
หลังจากปล่อยบทความ กรด-ด่าง ของร่างกายไปแล้วคราวนี้มาดูผลไม้ที่ทำให้ร่างกายเป็นด่างแบบไม่ต้องยุ่งยากให้มากมาย และ ดีกับการใช้ทั้งภายในและภายนอก ตามมา
มะนาวแบบหมดเปลือก
นอกจากทำให้ร่างกายเป็นด่าง เพียง มะนาว 1 ผลในน้ำครึ่งแก้วตอนท้องว่าง ช่วงเช้ากับช่วงบ่ายแล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกเพียบเลยครับ
จากคอลัมน์ The Lemon Juice Diet ของหนังสือ New Book ที่นักเขียนสาว เธเรซา เชียง ได้ให้คำแนะนำกับปัญหาโรคอ้วน ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยการรับประทานมะนาวดังนี้
“มะนาว” ถูกกล่าวขานว่ามีสรรพคุณในการลดความอ้วนได้อย่างดีที่สุด หากคุณทำตามกฎหลักทั้ง 3 ข้อนี้ คุณจะน้ำหนักลดลงได้ดั่งใจปรารถนา
1. ดื่มน้ำมะนาวกับน้ำทุก ๆ เช้า
เพื่อกระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดียิ่งขึ้น มะนาวเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ไม่เพียงแต่จะดีสำหรับช่วยลดไข้ได้ แต่มันยังมีผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยแอริโซนา แนะนำมาว่า ใครที่กินผลไม้และผักที่มีวิตามินซีในปริมาณที่มาก จะมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร และจะช่วยให้น้ำหนักลดได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมให้กักเก็บเอาไว้ในเซลล์ไขมัน ผลวิจัยยังแสดงอีกว่า แคลเซียมที่มีอยู่ในเซลล์ไขมันปริมาณมาก ๆ จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น
2. รับประทานผักและผลไม้อย่างน้อยวันละ 5 ชนิด
เพราะผักและผลไม้ทุกประเภท จะมีปริมาณแคลอรีที่น้อยมาก แต่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เส้นใย และสารอาหารที่ครบครัน จะช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยให้ระบบประสาททำงานอย่างสงบลง
3. ปรับสมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด
โดยการบีบน้ำมะนาวลงไปในมื้ออาหารทุกมื้อ หรือผสมเปลือกมะนาวลงไปในซุปหรือสลัด และบีบมะนาวเพียงเล็กน้อยโปรยลงบนเนื้อปลา และเนื้อไก่ก่อนรับประทาน แล้วจะรู้ว่ามะนาวคือเส้นใยที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะมะนาวจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงด้วย
นอกจากนี้ผลการศึกษาที่อ่านมากจาก Journal of the America College of Nutrition ใจความว่า คาร์โบไฮเดรตที่พบในผิวเปลือกของมะนาว จะสามารถกำจัดความอยากกินให้ลดลงได้ถึง 4 ชั่วโมง เปลือกมะนาวเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ที่ดีที่สุด ช่วยให้ระบบย่อยอาหารสามารถดูดซึมน้ำตาลได้เร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่คุณกินมัน คุณจะรู้สึกอิ่มไปอีกนานเลยทีเดียว.
สรรพคุณทางยาของมะนาว
มะนาวเป็นผลไม้ที่มีน้ำประกอบด้วย กรดอินทรีย์หลายชนิด เช่น กรดซิตริก กรดมาลิค วิตามินซี และส่วนของน้ำมันหอมระเหยจากผิวมะนาว มีวิตามินเอ และซี ทั้งยังมีธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงกว่าในน้ำมะนาวอีกด้วย นอกจากนี้ มะนาวมีประโยชน์ใช้เป็นยาสมุนไพรคือ ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้เลือดออกตามไรฟัน เหงือกบวม นอกจากนี้ยังช่วยแก้อาการปวดศีรษะ แก้อาเจียน เมาเหล้า ขจัดคราบบุหรี่ บำรุงตา บำรุงผิว และยังสามารถมีฤทธิ์ในการกัดเนื่องจากเป็นกรดตามธรรมชาติอีกด้วย
สำหรับเรื่องของการช่วยในการลดน้ำหนักนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่าหลักการที่จะทำให้น้ำหนักลดได้คือการใช้พลังงานให้ได้มากกว่าที่เรารับประทาน ไม่ใช่ว่าทานเข้าไปมาก หรือทานอะไรมันๆแล้วมาทานน้ำมะนาวอย่างนี้ก็คงช่วยได้ไม่มากนัก ซึ่งจริงอยู่ มะนาวนั้น ถือว่าเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูง ให้พลังงานต่ำ และเป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่สูง จึงทำให้มะนาวได้ถูกวางไว้เป็นผลไม้ที่สามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้
องค์ประกอบ
อุดมด้วยวิตามินซี
มะนาว 1 ผลขนาดเส้นผ่านสุนย์กลาง 2 นิ้วจะให้วิตามินซีอยู่ประมาณ 19.5 มิลลิกรัม คิดเป็นร้อยละ26 ของปริมาณที่แนะนำให้ผู้หญิงรับประทานต่อวัน และ ร้อยละ 21.8 ของปริมาณที่แนะนำให้ผู้ชายรับประทานต่อวัน ซึ่งเจ้าวิตามินซีนี่เองที่เป็นประโยชน์ ช่วยในเรื่องของการซ่อมแซมเซลผิว กระดูกและเนื้อเยื้อต่างๆ ช่วยรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมกับการใช้งาน เช่นการออกกำลังกายอย่างดี โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้มีการตีพิมพ์ข้อมูลโดยนิตยสารของวิทยาลัยด้านโภชนาการของอเมริกาซึ่งเขียนโดยนักโภชนาการ Dr. Carol Johnston ยืนยันว่า วิตามินซีสามารถช่วยในการเผาผลาญไขมันได้โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ จากการศึกษาพบว่าคนที่ได้รับวิตามินซีในระดับที่พอเหมาะจะสามารถเผาผลาญพลังงานได้มากกว่าคนได้รับวิตามินซีระดับต่ำอยู่ถึง 30%เลยทีเดียว
มะนาวมีพลังงานต่ำและเส้นใยสูง
มะนาว 1 ผล ที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้ว(67กรัม) จะให้เส้นใยประมาณ 1.9 กรัม หรือคิดเป็น 6% ของปริมาณเส้นใยที่ร่างกายต้องการต่อวัน โดยมะนาว 1 ผลจะให้พลังงานประมาณ 20 kcal อย่างที่ทราบเมื่อมะนาวนั้นมีเส้นใยสูง เส้นใยเหล่านี้เองที่ทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นานและยังช่วยควบคุมระดับและปริมาณน้ำตาลในหลอดเลือดได้
กรดซิตริก
เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวชนิดอื่นๆ รสเปรี้ยวจี๊ดของมะนาวนั้น อุดมไปด้วยกรดซิตริกอยู่ประมาณ 7-8% ซึ่งอาจเรียกได้ว่าสูงที่สุดในบรรดาผลไม้ทุกๆประเภท โดยกรดซิตริกนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอนุมูลอิสระกับเซลล์และทำให้เซลล์ต่างๆในร่างกายแข็งเเรง โดยคุณสมบัตินี้เองที่ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งที่เป็นผลมาจากภาวะอ้วนได้ นอกจากบทบาทในการป้องกันโรคแล้ว กรดซิตริกยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการดักจับและสลายไขมัน ในขณะที่ถ้าหากร่างกายได้รับโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่เหมาะสม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้คุณสามารถลดน้ำหนักได้
การดื่มในตอนเช้าจะเข้าไปกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษถูกดันออกมากับอุจจาระ
ผสมมะนาวในอาหารต่างๆโดยการบีบน้ำ มะนาว ลงไปในมื้ออาหารทุกมื้อ หรือผสมเปลือก มะนาว ลงไปในซุปหรือสลัด และบีบมะนาวเพียงเล็กน้อยโปรยลงบนเนื้อปลา และเนื้อไก่ก่อนรับประทาน แล้วจะรู้ว่า มะนาว คือเส้นใยที่มหัศจรรย์ที่สุด เพราะ มะนาวจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงด้วย
มะนาวกับการรักษาสิว
ความจริงแล้วการรักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่างสามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) และแนะนำใหทานติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ด้วยที่มะนาวมีสรรพคุณช่วยขจัดกรดต่างๆที่ตกค้างออกไปนั้นเองจึงทำให้น้ำมะนาวสามารถช่วยลดการเกิดสิวได้
การรักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 1
บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว
เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)
ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวัน
การรักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 2
บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำ1 ถ้วย (8 ออนซ์)
ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่มหรือรับประทานสิ่งใดๆ ภายในครึ่งชั่วโมงเพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย
**คนเป็นโรคกระเพาะไม่แนะนำให้ดื่ม**
การใช้น้ำมะนาวในการรักษาสิว อาจจะโดยการทาลงบนผิวโดยตรง หรือโดยการดื่มก็ได้ ทั้งสองวิธีจะช่วยในการลดสิวและรอยแผลเป็นทั้งจากภายในและภายนอกเลยเชียว ถ้าใช้ทั้งสองวิธีการ (ทั้งทา ทั้งดื่ม) โดยทั่วไปแล้วกับหลายๆ คนก็สามารถที่จะทำให้สิวหายไปเป็นจำนวนมากภายใน 3 สัปดาห์ ยิ่งหากใช้ร่วมกับน้ำยาทำความสะอาดอย่างอ่อน จะทำให้ผลการรักษาดีขึ้นไปอีก
การใช้น้ำมะนาวทาโดยตรง
น้ำมะนาวมีกรดผลไม้ธรรมชาติหรือ เอเอชเอ (AHA, Alpha Hydroxy Acids) อย่างหนึ่งซึ่งคือกรดซิตริก(citric acid) ซึ่งจะทำงานโดยการลอกเอาผิวที่ตายแล้วออก ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นดีขึ้น ช่วยให้เซลล์ผิวหนังใหม่เติบโตขึ้นได้ดีจากด้านล่างของผิว และยังช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อาจจะอุดตันอยู่ ช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่นและสดใส
สูตรน้ำมะนาวรักษาสิว
1. ทำความสะอาดผิวให้เรียบร้อย
2. บีบน้ำมะนาวจำนวนหนึ่งช้อนชา ใส่ลงในถ้วย จุ่มสำลีพันปลายไม้ลงไป
3. แต้มน้ำมะนาวที่หัวสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวธรรมดา สิวหัวดำ และสิวเสี้ยนธรรมดา
4. ทิ้งเอาไว้ค้างคืนโดยไม่ต้องล้างออก (แต้มเสร็จก็นอนได้เลย) ไว้ล้างออกตอนเช้า จากนั้นก็แต้มอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะแต่งหน้าในเช้าวันรุ่งขึ้น ( ล้างทำความสะอาดหน้าให้เรียบร้อยเสียก่อนนะ)
5. สำหรับบางคนที่ผิวบางมากๆ การใช้น้ำมะนาวบริสุทธิ์เลยอาจจะรุนแรงเกินไป ก็ลองผสมน้ำสักเล็กน้อยดูก่อน แต่ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็ใช้น้ำมะนาวนั่นแหละ แต่หลังจากทาแล้วไม่ต้องทิ้งค้างคืน แต่ทิ้งไว้แค่ 10 นาทีจากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำเย็น
หลังจากที่ใช้น้ำมะนาวทำความสะอาดผิว เช็ดๆ ถูๆ (เบาๆ นะ) ไปได้สักสองสัปดาห์ ผิวหน้าก็น่าจะดีขึ้นอย่างพอสังเกตได้ ถึงตอนนี้ก็ลองเอาน้ำมะนาวผสมกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีกรดไกลโคลิกอ่อนๆ ลงไป ทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้ผิวหน้าสดใสได้
บางที การเป็นสิวอาจจะเป็นเพราะเราได้รับโภชนาการที่ไม่เพียงพอ ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล การเพิ่งมีฮอร์โมนเพศ การเกิดแก็สในร่างกายมากไป และอีกหลายสาเหตุ ดังนั้นนอกจากการรักษาด้วยการจัดการที่ตัวสิว หรือหัวสิว โดยตรงแล้ว อาจจะต้องจัดการกับร่างกายของตัวเองให้สมดุล ซึ่งเป็นการจัดการที่ต้นตอของโรคสารพัดชนิด รวมทั้งการเป็นสิวด้วยด้วยเช่นกัน
ใครที่ป่วยอยู่ หรือ อ้วน ลองดูครับ วันละสองผล ผมรับรองว่าร่างกายคุณจะดีขึ้นแน่นอนครับ สวัสดี