หน้าแรก
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
แจ้งชำระเงิน
บทความ
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
หน้าแรก
>
บทความ
>
โรคเบาหวาน หายขาดได้ด้วยการ ฟื…
โรคเบาหวาน หายขาดได้ด้วยการ ฟื้นฟูตับอ่อน1
8 ปีที่ผ่านมา
โดย
เจ้าของร้าน
โรคเบาหวาน หายขาดได้ด้วยการ ฟื้นฟูตับอ่อน (หมอนอกกะลา)1
ผมทราบมานานแล้วครับว่าโรคเ
บาหวานรักษาให้หายขาดได้ แต่ไม่นึกว่าจะมีคนมาขอคำปร
ึกษา ผมเข้าใจว่าที่เขารักษากันอ
ยู่ในปัจจุบันนั้นหายภายใน 7 เดือนอย่างที่ผมเข้าใจ ก็เห็นคนแถวบ้าน เขาไปกันทุกวันพุธ บอกผมว่าหมอเบาหวานนัด ผมก็เฉยๆ พอมาเก็บข้อมูลเข้าจริงๆเขา
บอกว่ามันไม่หายต้องกินยาไป
ตลอดชีวิต เลยขอดูยา จากหลาย ๆ ท่านที่ไปเอายาฟรี มาทานกัน และศึกษายาหล
ักในคลังแห่งชาติของหลายโรง
พยาบาล ก็ถึงบางอ้อครับ ตลอดชีวิตแน่นอนครับ มีโรคแทรกซ้อนด้วยครับ วันนี้มาเข้าใจกันให้ลึกซึ้
งถึงแก่นในกันเลยครับ
ความรู้เบื้องต้นครับ
เบาหวาน เกิดจากความผิดปกติของร่างก
ายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซู
ลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลใน
กระแสเลือดสูงเกิน โรคเบาหวานจะมีอาการเกิดขึ้
นเนื่องมาจากการที่ร่างกายไ
ม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเ
หมาะสม ซึ่งโดยปกติน้ำตาลจะเข้าสู่
เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพล
ังงานภายใต้การควบคุมของฮอร
์โมนอินซูลิน ซึ่งผู้ที่เป็นโรคเบาหวานร่
างกายจะไม่สามารถนำน้ำตาลไป
ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภา
พ ผลที่เกิดขึ้นทำให้ระดับน้ำ
ตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะยาวจะมีผลในการทำลายห
ลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่
างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่
รุนแรงได้
อินซูลิน กับ เบาหวาน
อินซูลิน เป็นฮอร์โมนที่สร้างขึ้นโดย
กลุ่มเซลล์ภายในตับอ่อน มีหน้าที่ในการนำน้ำตาลในเล
ือดไปสู่เนื้อเยื่อต่างๆทั่
วร่างกายเพื่อใช้ในการสร้าง
พลังงานและสร้างเซลล์ต่างๆ โดยปรกติแล้วเมื่อมีน้ำตาลเ
ข้าสู่กระแสเลือดตับอ่อนก็จ
ะถูกกระตุ้นให้หลั่ง อินซูลิน แล้วอินซูลินก็จะเข้าจับน้ำ
ตาลเพื่อนำไปเลี้ยงส่วนต่าง
ๆของร่างกาย แต่ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาห
วาน ซึ่งร่างกายมี อินซูลิน ไม่เพียงพอก็จะทำให้มีน้ำตา
ลในเลือดสูงขึ้น
ประเภทของ เบาหวาน
เบาหวาน สามารถแบ่งออกได้เป็น2ชนิด ได้แก่
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิต้านทานของร่างก
ายทำลายเซลล์ ซึ่งสร้างอินซูลินในส่วนของ
ตับอ่อนทำให้ร่างกายหยุดสร้
างอินซูลิน หรือสร้างได้น้อยมาก ดังที่เรียกว่า โรคภูมิต้านทานตัวเอง หรือ ออโตอิมมูน(autoimmune)
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็น เบาหวาน ที่พบเห็นกันเป็นส่วนใหญ่ สาเหตุที่แท้จริงนั้นยังไม่
ทราบชัดเจน แต่มีส่วนเกี่ยวกับ พันธุกรรม อาหารที่เราๆ ท่านๆ ทานกันอยู่นี่แหละครับ และงายวิจัยส่วนใหญ่ก็บอกว่
ามาจากความหวานและการทานอาห
ารไม่ตรงเวลาแทบทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์กับภาวะ น้ำหนักตัวมาก และขาดการออกกำลังกาย มีลูกดก อีกทั้งวัยที่เพิ่มขึ้น เซลล์ของผู้ป่วยยังคงมีการส
ร้างอินซูลินแต่ทำงานไม่เป็
นปกติ เนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซ
ูลิน ทำให้เซลล์ที่สร้างอินซูลิน
ค่อยๆถูกทำลายไป บางคนเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนโด
ยไม่รู้ตัว โดยอาจจะใช้ยาในการรับประทา
น และบางรายต้องใช้อินซูลินชน
ิดฉีด เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
นอกจากนี้ เบาหวาน ยังมีสาเหตุมาจากการใช้ยาด้
วย เช่น สเตอรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาเม็ดคุมกำเนิด
อาการเบื้องต้นของ เบาหวาน
ผู้เป็นโรคเบาหวานจะมีอาการ
เบื้องต้นคือ
1. ปวดปัสสาวะบ่อย ครั้งขึ้น เนื่องจากในกระแสเลือดและอว
ัยวะต่างๆมีน้ำตาลค้างอยู่ม
าก ไตจึงทำการกรองออกมาในปัสสา
วะ ทำให้ปัสสาวะหวาน สังเกตุจากการที่มีมดมาตอมป
ัสสาวะ จึงเป็นที่มาของการเรียก เบาหวาน
2. ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น
3. กระหายน้ำ และดื่มน้ำในปริมาณมากๆต่อค
รั้ง
4. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง
5. เบื่ออาหาร
6. น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเห
ตุ โดยเฉพาะถ้าหากน้ำหนักเคยมา
กมาก่อน อันเนื่องมาจากร่างกายไม่สา
มารถนำน้ำตาลไปสร้างพลังงาน
ได้เต็มที่จึงต้องนำไขมันแล
ะโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้ท
ดแทน
7. ติดเชื้อบ่อยกว่าปรกติ เช่นติดเชื้อทางผิวหนังและก
ระเพาะอาหาร สังเกตุได้
จากเมื่อเป็นแผลแล้วแผลจะหา
ยยาก
8. สายตาพร่ามองไม่ชัดเจน
9. อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สึก
เนื่องมาจากเบาหวานจะทำลายเ
ส้นประสาทให้เสื่อมสมรรถภาพ
ลงความสามารถในการรับรู้ควา
มรู้สึกจึงถดถอยลง
10. อาจจะมีอาการของโรคหัวใจ และโรคไต
โดย เบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะมีอาการเหล่านี้บางอย่
าง หรืออาจไม่มีอาการเหล่านี้เ
ลย
อาการแทรกซ้อนของ โรคเบาหวาน
มักจะเกิดเมื่อเป็น เบาหวาน อย่างน้อย 5 ปีแล้วไม่ได้รักษาอย่างจริง
จัง
• ภาวะแทรกซ้อนทางสายตา (Diabetic retinopathy)เกิดจากการที่น
้ำตาลเข้าไปใน endothelium ของ หลอดเลือดเล็กๆ ในลูกตา ทำให้หลอดเลือดเหล่านี้มีกา
รสร้างไกลโคโปรตีนซึ่งจะถูก
ขนย้ายออกมาเป็น Basement membrane มากขึ้น ทำให้ Basement membrane หนา แต่เปราะ หลอดเลือดเหล่านี้จะฉีกขาดไ
ด้ง่าย เลือดและสารบางอย่างที่อยู่
ในเลือดจะรั่วออกมา และมีส่วนทำให้ Macula บวม ซึ่งจะทำให้เกิด Blurred vision หลอดเลือดที่ฉีกขาดจะสร้างแ
ขนงของหลอดเลือดใหม่ออกมามา
กมายจนบดบังแสงที่มาตกกระทบ
ยัง Retina ทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยแ
ย่ลง ตาหรือจอตาเสื่อม หรือมองเห็นจุดดำลอยไปมา และอาจจะทำให้ตาบอดได้ในที่
สุด
• ภาวะแทรกซ้อนทางไต (Diabetic nephropathy)ไตมักจะเสื่อม จนเกิดภาวะไตวาย พยาธิสภาพของหลอดเลือดเล็กๆ
ที่ Glomeruli จะทำให้ Nephron ยอมให้ albumin รั่วออกไปกับ filtrate ได้ Proximal tubule จึงต้องรับภาระในการดูดกลับ
สารมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นนานๆ ก็จะทำให้เกิด Renal failure ได้ ซึ่งผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตภ
ายใน 3 ปี นับจากแรกเริ่มมีอาการ
• ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท (Diabetic neuropathy) เบาหวาน จะทำให้หลอดเลือดเล็กๆ ที่มาเลี้ยงเส้นประสาทบริเว
ณปลายมือปลายเท้าเกิดพยาธิส
ภาพ ก็จะทำให้เส้นประสาทนั้นไม่
สามารถนำความรู้สึกต่อไปได้
เช่นรู้สึกชาหรือปวดแสบปวดร
้อนตามปลายมือ เมื่อผู้ป่วยมีแผล ผู้ป่วยก็จะไม่รู้ตัว และไม่ดูแลแผลดังกล่าว ประกอบกับเลือดผู้ป่วยมีน้ำ
ตาลสูง จึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเ
หล่าเชื้อโรค และแล้วแผลก็จะเน่า และนำไปสู่ Amputation ในที่สุด ในผู้ชายอาจมีภาวะหย่อนสมรร
ถภาพทางเพศ(impotence)
• โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary vascular disease) เบาหวาน เป็นตัวการที่จะเร่งให้เกิด
การเสื่อมของหลอดเลือดทั่วร
่างกายและเมื่อหลอดเลือดที่
เลี้ยงหัวใจเสื่อมสภาพจาก เบาหวาน ประกอบกับการมีไขมันในเลือด
สูง ก็จะส่งผลให้มีการตีบของหลอ
ดเลือดหัวใจ ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด แต่หากหลอดเลือดเกิดอุดตัน ก็จะเกิดอาการกล้ามเนื้อหัว
ใจตาย ในผู้ป่วย เบาหวาน บางราย กล้ามเนื้อหัวใจมีการทำงานน
้อยกว่าปกติ คือ มีการบีบตัวน้อยกว่าปกติอัน
เนื่องมาจาก เส้นเลือดฝอยเล็กๆที่เลี้ยง
กล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติจาก เบาหวาน ซึ่งจะทำการรักษาได้ยาก การรักษาที่ดีที่สุดคือ การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ปัญหาที่สำคัญมากอีกประการห
นึ่งของผู้เป็น เบาหวาน คือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับห
ลอดเลือดหัวใจจะไม่แสดงอากา
รผิดปกติซึ่งจะบ่งชี้ว่าเป็
นโรคหัวใจให้เห็นก่อน เช่นอาการเจ็บหน้าอก อันเป็นอาการเบื้องต้นของผู
้ป่วยโรคหัวใจทั่วไป ดังนั้นผู้เป็น เบาหวาน บางรายอาจจะแสดงอาการครั้งแ
รกด้วยอาการที่รุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตาย หรือ หัวใจล้มเหลว ทำให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ช้
ากว่าปกติ ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
• โรคหลอดเลือดสมอง (Cerebrovascular disease) ผู้เป็น เบาหวาน จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดอั
มพาตชนิดหลอดเลือดตีบได้สูง
เพราะ เบาหวาน ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง
ได้ง่าย โดยจะมีหลอดเลือดแข็งทั่งร่
างกายและถ้าเป็นที่หลอดเลือ
ดของสมอง ก็จะเกิดอัมพาตขึ้น โดยอัตราเสี่ยงของผู้ป่วยที
่เป็น โรคเบาหวาน จะมีโอกาสเป็นอัมพาตได้สูงก
ว่าผู้ป่วยปกติ 2-4 เท่า โดยจะมีอาการเบื้องต้นสังเก
ตุได้จาก กล้ามเนื้อแขน ขาอ่อนแรงครึ่งซีกอย่างทันท
ีทันใดหรือเป็นครั้งคราว ใบหน้าชาครึ่งซีกใดซีกหนึ่ง
พูดกระตุกกระตัก สับสนหรือพูดไม่ได้เป็นครั้
งคราว ตาพร่าหรือมืดมองไม่เห็นไปช
ั่วครู่ เห็นแสงผิดปกติ วิงเวียน เดินเซไม่สามารถทรงตัวได้ กลืนอาหารแล้วสำลักบ่อยๆ มีอาการปวดศรีษะอย่างรุนแรง
โดยอาการปวดมักจะเกิดในขณะท
ี่เคร่งเครียด หรือมีอารมณ์รุนแรง
• โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral vascular disease)
• แผลเรื้อรังจากเบาหวาน (Diabetic ulcer)
สิ่งที่ตรวจพบเมื่อเป็น เบาหวาน
เบาหวานชนิดที่ 1 มักพบในคนที่ มีรูปร่างซูบผอม ไม่มีไขมัน กล้ามเนื้อลีบฝ่อ
เบาหวานชนิดที่ 2 อาจมีรูปร่างอ้วน บางรายตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติ
ตามร่างกาย
การตรวจปัสสาวะมักจะพบน้ำตา
ลในปัสสาวะขนาดมากกว่าหนึ่ง
บวกขึ้นไป
การตรวจน้ำตาลในเลือดหลังอด
อาหาร 6 ชั่วโมง (fasting plasma glucose/
FPG) มักพบว่ามีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 126 มิลลิกรัมต่อเลือด 100 มิลลิลิตร
ยาเม็ดลดระดับน้ำตาลในเลือด
แบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับ
1. เสริมการออกฤทธิ์ของอินซูลิ
น Agents Enhancing the Effectiveness of Insulin ยาในกลุ่มนี้ไม่ทำให้เกิดภา
วะน้ำตาลในเลือดต่ำยาในกลุ่
มนี้ได้แก่
• Metformin
• Troglitazone
• Acarbose
2. ยาเพิ่มการหลั่งของอินซูลิน
Agents Augmentating the supply of Insulin ยาในกลุ่มนี้เพิ่มการหลั่งข
องอินซูลิน ได้แก่
• Sulfonylurea
• Repaglinide
• Insulin
• Sitagliptin
สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิ
ดที่ 2 ใช้ยาดังนี้
• ผู้ป่วยที่ไม่มีข้อห้ามในกา
รใช้ยา metformin แนะให้ใช้ยาชนิดนี้เป็นยาชน
ิดแรก
• ปรับยาเพื่อให้ได้ค่าน้ำตาล
เฉลี่ยได้ตามเป้าหมายใน 3-6 เดือน หากไม่ได้เป้าหมายและใช้ยาเ
ต็มที่แล้วให้เพิ่มยาชนิดที
่ 2
• ยาชนิดที่ 2 ที่ให้ใช้คือ glucagon-like peptide-1 (GLP-1) และยารับประทานเบาหวานชนิดอ
ื่น
• หากผู้ป่วยที่เป็นใหม่ และมีน้ำตาลสูงและมีอาการมา
กแนะนำให้ใช้อินซูลินในการร
ักษาเบื้องต้น
• ถ้ายา เม็ดควบคุมไม่ได้ก็ต้องใช้ก
ารฉีด
ผลข้างเคียงของยาเพื่อรักษา
โรคเบาหวาน
อาจเกิด เป็นลมพิษ หายใจลำบาก บวมหน้า ปาก และคอ ให้หยุดยาและปรึกษาแพทย์ที่
จ่ายยาให้ท่าน
ส่วนยา Glibenclamide
ยานี้ลดน้ำตาลในเลือดโดยกระ
ตุ้นตับอ่อนให้หลั่งอินซูลิ
น
ผลข้างเคียงของยา
ผลต่อระบบโลหิต
พบน้อยอาจจะรุนแรงเสียชีวิต
ได้ ผลข้างเคียงที่พบได้แก่ เกล็ดเลือดต่ำ เม็ดเลือดขาวต่ำ โลหิตจาง ซึ่งจะมีอาการ จ้ำเลือด เลือดออกง่ายเช่นเลือดกำเดา
หรือเลือดออกตามไรฟัน เป็นหวัดง่าย
ผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน
แพ้ยาทำให้เกิดอาการหอบหืด ริมฝีปาก คอ ลิ้นบวม
ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ
• อาจจะทำให้เกิดภาวะโซเดี่ยม
ในเลือดต่ำ
• เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ Hypoglycaemia
ผลต่อการมองเห็น
การเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลอ
ย่างรวดเร็วอาจจะทำให้เกิดอ
าการตาพร่ามัว
ผลต่อระบบทางเดินอาหาร
อาจจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส
้อาเจียน รู้สึกจุกเสียดแน่นท้อง อาจจะท้องร่วง
ผลต่อตับ
อาจจะทำให้เกิดตับอักเสบ เมื่อหยุดยาอาการจะดีขึ้น
ผลต่อผิวหนัง
อาจจะเกิดแพ้ยาชนิดรุนแรง เช่น erythema multiforme, Stevens-Johnson syndrome, erythema nodosum and exfoliative dermatitis หรือที่รุนแรงน้อยได้แก่ ผื่นคัน แพ้แสงแดด
สิ่งที่ต้องระวังคือมิให้เก
ิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
• ผู้ป่วยสูงอายุ ขาดอาหาร หรือช่วยตัวเองไม่ได้กลุ่มน
ี้จะเสี่ยงต่อการเกิดน้ำตาล
ในเลือดต่ำ
• ออกกำลังกายมากเกินไปจะเสี่
ยงต่อการเกิดน้ำตาลในเลือดต
่ำ
• ผู้ป่วยที่ไตวายผู้ที่มีโรค
ต่อมหมวกไต การใช้ยานี้ร่วมกับยาอื่น
ทำให้ยา Glibenclamide ออกฤทธิ์มากขึ้นซึ่งเสี่ยงต
่อการเกิดภาวะน้ำตาลต่ำ
ยาที่เสริมฤทธิ์ได้แก่ ยารักษาโรคติดเชื้อ (เช่น: hloramphenicol, fluconazole, miconazole, sulphonamides ),ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID (เช่น.:phenylbutazone, salicylates),ยาต้านการแข็ง
ตัวของเลือด warfarin ,ยาลดไขมัน (เช่น.clofibrate), ยาต้านซึมเศร้า(monoamine oxidase inhibitors, doxepin, nortriptyline), ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ACE-inhibitors เช่น captopril, enalapril,ยารักษาโรคกระเพา
ะอาหาร H2- blockers, cimetidine, ranitidine,
เมื่อเกิดอาการข้างเคียงควร
ทำอย่างไร
• อาการข้างเคียงที่เกิดจากน้
ำตาลในเลือดต่ำกว่าปกติมีดั
งนี้: ปวดศีรษะ เหงื่อแตก สั่น กระวนกระวาย หัวใจเต้นเร็ว อ่อนเพลีย ปากหรือลิ้นชา สับสน ตาพร่า หากมีอาการดังกล่าวควรดื่มน
้ำผลไม้หรือน้ำหวาน หรืออมลูกกวาดหรือน้ำตาล และปรึกษาแพทย์
• หากมีอาการจะเป็นลม ควรขอคนนำส่งแพทย์หรือโรงพย
าบาลทันที
• หากมีอาการต่อไปนี้ ได้แก่ มีผื่นคันหรือแดง ผิวไหม้แดดผิดปกติ ตาหรือผิวมีสีเหลือง อุจจาระสีซีด ปัสสาวะสีเข้ม มีไข้ เจ็บคอ ควรพบแพทย์ทันที
• คลื่นไส้อาเจียน แน่นท้อง ไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร ปัสสาวะเข้ม ตัวเหลืองตาเหลือง
• ซีด อ่อนแรง สับสน มีจ้ำเลือด เลือดออกง่าย
จะเห็นได้ว่าทั้งหมดที่ใช้ร
ักษาเป็นการรักษาที่ปลายเหต
ุ ผมเลยลองศึกษาของต่างประเทศ
บ้าง ปรากฏว่าในสหรัฐเองตอนนี้ผู
้ป่วยราว 38 % หันมาใช้วิธีอื่น ๆ เช่นใช้สารสกัดจากพืชธรรมชา
ติในการบำบัด ในอังกฤษ เปลี่ยนวิธีรักษาราว 45 % แต่ในเอเซียประเทศที่ผมยอมค
ารวะ คือไต้หวัน แน่จริงๆครับ และผมจะเอาที่ไต้หวันและของ
ดีของไทยมาฝากในตอนต่อไปครั
บ
โรคเบาหวาน
,
เบาหวาน
,
santi manadee
,
สันติ มานะดี
,
วิธีรักษา โรคเบาหวาน
Share
Share :
COPY
ค้นหาสินค้า
ค้นหา
ค้นหาโดยละเอียด
ดูทั้งหมด
หมวดหมู่สินค้า
สินค้าทั้งหมด
[63]
สินค้ามาใหม่
[0]
สินค้าแนะนำ
[13]
หมวดหมู่ตัวอย่าง
[0]
เสริมสุขภาพ
[48]
อาหารเสริมชนิดผง
[11]
อาหารเสริมชนิดเม็ด
[24]
ควบคุมน้ำหนัก
[0]
เสริมความงาม
[18]
อื่นๆ
[10]
สินค้าใหม่
ดูสินค้ามาใหม่ทั้งหมด
ระบบสมาชิก
คุณเป็นตัวแทนจำหน่าย
ระดับ{{userdata.dropship_level_name}}
ไปหน้าหลักตัวแทน
ระดับสมาชิกของคุณ ที่ร้านค้านี้
รายการสั่งซื้อของฉัน
ทั้งหมด {{(order_nums && order_nums.all)?'('+order_nums.all+')':''}}
รอการชำระเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment)?'('+order_nums.wait_payment+')':''}}
รอตรวจสอบยอดเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment_verify)?'('+order_nums.wait_payment_verify+')':''}}
รอจัดส่งสินค้า {{(order_nums && order_nums.wait_send)?'('+order_nums.wait_send+')':''}}
รอยืนยันได้รับสินค้า {{(order_nums && (order_nums.wait_receive || order_nums.wait_confirm))?'('+(order_nums.wait_receive+order_nums.wait_confirm)+')':''}}
รอตรวจสอบข้อร้องเรียน {{(order_nums && order_nums.dispute)?'('+order_nums.dispute+')':''}}
เรียบร้อยแล้ว {{(order_nums && order_nums.completed)?'('+order_nums.completed+')':''}}
ทั้งหมด {{(order_nums && order_nums.all)?'('+order_nums.all+')':''}}
รอการชำระเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment)?'('+order_nums.wait_payment+')':''}}
รอตรวจสอบยอดเงิน{{(order_nums && order_nums.wait_payment_verify)?'('+order_nums.wait_payment_verify+')':''}}
รอจัดส่งสินค้า {{(order_nums && order_nums.wait_send)?'('+order_nums.wait_send+')':''}}
ส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว {{(order_nums && order_nums.sent)?'('+order_nums.sent+')':''}}
logout
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ยังไม่มีบัญชีเทพ
สร้างบัญชีใหม่
ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
ติดต่อเรา
0971654697
snailwhitebeauty
ติดตามสินค้า
ตรวจสอบพัสดุ
เว็บเพื่อนบ้าน
LnwShop
หน้าแรก
|
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
|
แจ้งชำระเงิน
|
บทความ
|
เว็บบอร์ด
|
เกี่ยวกับเรา
|
ติดต่อเรา
|
ตะกร้าสินค้า
|
Site Map
Copyright © 2025
www.santimanadee.com
All rights reserved.
ตะกร้า
(
0
)
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ยังไม่มีบัญชีเทพ
สร้างบัญชีใหม่
ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
SANTI MANADEE
ไม่เอาภาระเข้าร่างกาย เอาสิ่งดี ๆ ใส่ให้กับร่างกาย คุณก็จะมีสุขภาพดี
เบอร์โทร :
0971654697
อีเมล :
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหา
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP
เลื่อนขึ้นบนสุด
คุณมีสินค้า
0
ชิ้นในตะกร้า
สั่งซื้อทันที
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
ดูสินค้าในตะกร้า
เริ่มการสั่งซื้อ
➜
เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม
พูดคุย-สอบถาม
โทร 0971654697
Add snailwhitebeauty