ผลจากทำงานในการลงพื้นที่โดยมองข้ามเรื่องความปลอดภัย ในการสัมผัสเชื้อโรค จึงนำมาด้วยโรคนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ มา ณ ที่นี้ด้วย
#โรคอัมพาตใบหน้า (Bell’ Palsy)
สาเหตุ
จริงๆแล้วเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนของการเกิดโรคแต่สันนิษฐานว่าเกิดจาการติดเชื้อไวรัสโดยเฉพาะเชื้อเริม ของเส้นประสาทสมองคู่ที่ ๗ ที่เรียกว่า เส้นประสาทใบหน้า (facial nerve) ที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้าทำให้ไม่ทำงานชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีกด้านนั้นเป็นอัมพาต และมักจะมีอาการแบบปัจจุบันทันด่วน เช่น ตื่นนอนตอนเช้าก็พบว่าปากเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ทำให้เกิดความวิตกกังวลแก่ผู้ป่วยว่าจะเป็นโรคเดียวกับอัมพาตครึ่งซีกหรือไม่ อันที่จริงแล้วทั้งสองโรคนี้เป็นคนละโรคกัน คือโรคอัมพาตครึ่งซีกนั้นเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง เช่น มีเส้นเลือดในสมองแตก มีลิ่มเลือดมาอุดตันเส้นเลือดในสมอง ทำให้แขน-ขาครึ่งซีกอ่อนแรงบางรายอาจมีปากเบี้ยวร่วมด้วย แต่ยังสามารถหลับตาหรือยักคิ้วได้ ส่วนโรคอัมพาตใบหน้าจะเกิดความผิดปกติที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ ๗ ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าเท่านั้น แขนขาทั้งสองข้างแข็งแรงเป็นปกติ
อาการ
มักเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน( เช่น ตื่นนอนตอนเช้า) จะพบว่ามีมุมปากข้างหนึ่งตก หลับตาข้างเดียวกันนั้นได้ไม่สนิท ปากเบี้ยวไปข้างหนึ่งขณะยิ้มหรือยิงฟัน เวลากลืนน้ำจะมีน้ำไหลมาที่มุมปากข้างนั้น ไม่สามารถยักคิ้วขึ้นได้ จะสามารถสังเกตเห็นอาการได้ชัดเวลาผู้ป่วยพูด ยิ้มหรือกระพริบตา บางคนไปพบแพทย์เนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองพูดไม่ชัด ผิวปากไม่ได้ บางคนรู้สึกว่าหน้าบวมหรือชาครึ่งซีก นอกจากนี้อาจมีอาการลิ้นครึ่งซีกชาและรับรสไม่ได้ หูข้างเดียวกันนั้นอาจมีอาการปวดและรู้สึกหูอื้อได้ ตาแห้งหรือมีน้ำตาไหลข้างเดียวเนื่องจากระคายเคืองฝุ่นละอองเนื่องจากตาผิดได้ไม่สนิท
ทั้งนี้แรงของกล้ามเนื้อแขนและขาของผู้ป่วยยังปกติอยู่ ไม่มีอาการอ่อนแรง
ผู้ป่วยอาจมีอาการตาอักเสบเนื่องมาจากการปิดตาไม่สนิท ทำให้มีฝุ่นละอองเข้ามาทำให้เกิดความระคายเคือง มีอาการตาแห้งต้องอาศัยการหยอดน้ำตาเทียมช่วยมิเช่นนั้นอาจทำให้แก้วตามีปัญหาได้
#ต้องใช้เวลารักษาตัวกันหลายเดือน
เครดิต:หมอนอกกะลา