BELIEVE THE TRUTH
ตอน ฮอร์โมนไทรอยด์และการเดินทางของพวกเขา
ยาเพื่อใช้รักษาไทรอยด์มักถูกนำมาใช้เมื่อผู้ให้บริการทางการแพทย์ลงความเห็นว่าท่านมีภาวะไทรอยด์สูงแต่นั่นอาจไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องนักเพราะในบางรายที่ใช้วิธีการรักษาด้วยยาจนท้ายที่สุดก็จบลงที่การผ่าตัดหรือแม้กระทั่งการอมแร่รังสีเพื่อทำลายเซลล์ไทรอยด์และการทำลายสิ่งใด ๆ ที่ร่างกายสร้างมาดีแล้วย่อมส่งผลให้ร่างกายทำงานด้วยตัวเองมิได้และอาจส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณ
บทความนี้น่าจะอ่านเข้าใจได้ง่ายและท่านที่มีปัญหาไทรอยด์สูงควรตระหนักและบอกกล่าวให้ผู้ให้คำแนะนำของท่านตรวจสอบสารอาหารที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการทำงานของร่างกายก่อนการใช้ยา
TSH หรือ Thyroid-stimulating hormone เป็นฮอร์โมนที่สร้างโดยต่อมใต้สมองส่วนหน้า
ต่อมใต้สมอง ทำหน้าที่ควบคุมต่อมที่สร้างฮอร์โมนอื่นๆ ซึ่งรวมถึงต่อมไทรอยด์ โดยต่อมใต้สมองนี้วางตัวอยู่ด้านหลังจมูกบริเวณฐานของสมองใกล้กับเส้นประสาทตา ต่อมนี้จะทำงานร่วมกับสมองส่วน hypothalamus อย่างใกล้ชิด โดยสมองส่วน hypothalamus จะสร้างฮอร์โมน thyrotropin-releasing hormone (TRH) ซึ่งทำหน้าที่บอกต่อมใต้สมองให้ผลิต TSH - เมื่อระดับไทรอยด์ฮอร์โมนอยู่ในระดับต่ำ ต่อมใต้สมองก็จะหลั่งฮอร์โมน TSH ออกมาเพิ่มขึ้น หากอยู่ในระดับสูงก็จะหยุดหรือชะลอการหลั่งฮอร์โมน TSH มายังต่อมไทรอยด์
...ในขั้นตอนนี้ พวกเขาใช้วัตถุดิบอะไรในการสร้าง THS
- โปรตีน เป็นสารอาหารหลักสำหรับการนี้
- แม็กนีเซียม มีมากในพืชตระกูลถั่วอย่างเช่น เมล็ดอัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง เมล็ดจากพืชผักต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดงา เมล็ดดอกทานตะวัน
- วิตามินบี 12 มีมากใน หอยนางรม ตับวัว ปู ปลาซาร์ดีน เนื้อวัว ปลาทูน่า แกะ ปลาแซลมอน ไข่
- สังกะสี มีมากใน หอยนางรม ตับ เมล็ดแตงโม จมูกข้าว เนื้อสัตว์ เมล็ดฟักทอง งา ถั่วลิสง ไข่แดง เม็ดมะม่วงหิมพานต์
สารอาหารทั้ง 4 ชนิดจำเป็นต้องใช้ในเวลาเดียวกันเพื่อให้การทำงานของสมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในผู้ป่วยกระเพาะอาหารและกรดไหลย้อนมีแนวโน้มที่จะขาดแม็กนีเซียมเนื่องจากอาหารที่มีแม็กนีเซียมสูงจะก่อปัญหาท้องอืดท้องเฟ้อในผู้ป่วยกลุ่มนี้
เมื่อ THS ถูกส่งมายังต่อมไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์ก็จะทำหน้าที่ผลิต T4 (thyroxine) ซึ่งทางการแพทย์จะถือว่าเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยต่อมไทรอยด์....แต่ฮอร์โมนนี้ยังใช้งานไม่ได้ (inactive)
...ในขั้นตอนนี้ พวกเขาใช้วัตถุดิบอะไรในการผลิต T4 (thyroxine)
- ไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญมากหลายประการและถ้าขาดสิ่งนี้ก็จะนำไปสู่คอหอยพอก ไอโอดีนมีมากใน :
อาหารทะเลทุกชนิดยกตัวอย่างเช่น ปลาทะเล สาหร่ายทะเล กุ้ง ปู หอย ปลาแซลมอน ปลากะพง ปลาทู ปลาทูน่า (เพราะในน้ำทะเลมีไอโอดีนสูง สัตว์ทะเลทุกชนิดจึงเป็นอาหารที่มีไอโอดีนสูงตามไปด้วย) ไข่ น้ำมันตับปลา กระเทียม ผักกาดเขียว ผักขม โยเกิร์ต เมล็ดงา ถั่วเมล็ดแบน สตรอเบอรรี่ เกลือทะเล เกลือหิมาลัย ผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีนทุกชนิด เช่น เกลือเสริมไอโอดีน(เป็นอาหารที่มีไอโอดีนสูงที่ราคาถูก) น้ำดื่มเสริมไอโอดีน น้ำปลาเสริมไอโอดีน ซีอิ๊วขาวเสริมไอโอดีน บะหมี่เสริมไอโอดีน ไข่สดเสริมไอโอดีน กล้วยตากเสริมไอโอดีน
และโมเลกุลของไอโอดีนจะไม่ถูกนำไปใช้โดยต่อมไทรอยด์ถ้าไม่มีวิตามิน 2 ตัวนี้เป็นตัวขับเคลื่อน :
- วิตามินบี 2 หรือ Riboflavin เป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ เป็นวิตามินที่มีส่วนร่วมในกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย โดยช่วยให้ร่างกายเราใช้ประโยชน์จากวิตามินบีชนิดอื่นๆ ได้ และช่วยให้ร่างกายของเราได้ใช้พลังงานจากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป นอกจากนี้ยังอาจช่วยปกป้องเซลล์ที่เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการสร้างฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต adrenal gland ซึ่งโดยทั่วไปคนเรามักจะขาดไรโบฟลาวินเหมือนกันกับไธอะมีน(วิตามินบี1) และเมื่อเราขาดวิตามินบี 2 หรือ ไรโบฟลาวินอาการจะเห็นได้ชัดจากการเกิดแผลเปื่อยที่มุมปาก ที่เราเรียกกันว่า “ปากนกกระจอก” (angular stomatitis) แพ้แสง มองแสงจ้าไม่ได้ ตาจะมองไม่ชัด คันตา ซีด ริมฝีปากแดง ปวดแสบในปากและลิ้น ร่องจมูกและเปลือกตาจะมีการอักเสบ มีขุยและบางทีอาจจะปวดหัวไมเกรน
วิตามินบี 2 มีอยู่มากใน เนื้อลูกแกะ ตับวัว ไข่ ปลาหมึก เนื้อหมู (สันนอก) ปลาทู ผักปวยเล้ง เมล็ดอัลมอลด์ โยเกิร์ต (รสธรรมชาติ) งา ปลาแซลมอน
-วิตามินซี : ผักที่พบมาก ได้แก่ ดอกกะหล่ำ กะปล่ำปม ขึ้นฉ่าย ต้นหอม ถั่วลันเตา
ใบเผือก ใบมันสำปะหลัง ใบมะระจีน ผักกาดขาว ผักกาดเขียวปลี ผักโขม ผักคะน้า ผักชี ผักบุ้ง มะรุม ยอดมะม่วง ผลไม้ที่มีวิตามินซีมาก ได้แก่ เชอรี ส้มต่างๆ มะนาว ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ มะละกอและสตรอเบอรี เป็นต้น
เมื่อ T4 (thyroxine) ถูกสร้างสำเร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกปล่อยไปยังกระแสเลือดและในระหว่างนี้เองจะถูกเปลี่ยนไปเป็น T3 (triiodothyronine) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่นำไปใช้งานได้ (active)
...ในขั้นตอนนี้เอ็นไซม์จะทำหน้าที่ในการเปลี่ยน T4 (thyroxine) ไปเป็น T3 (triiodothyronine) แต่ตัวเอ็นไซม์เองก็ต้องถูกขับเคลื่อนในการเปลี่ยนโดย
- ซิลีเนียม (Selenium) แหล่งของซิลีเนียมนั้นก็คือถั่วเปลือกแข็ง ธัญพืช เนื้อ ปลา ไข่ ปลาทูน่า กระเทียม กุ้ง ปูและหอย ร่างกายต้องการซิลีเนียมวันละ 70 มิลลิกรัม
และถ้าคุณมีซิลีเนียมไม่เพียงพอ T4 จะไม่ถูกเปลี่ยนไปเป็น T3 แต่จะกลายเป็น RT3 (Reverse T3)ซึ่งนำไปใช้งานไม่ได้ (inactive) และค่า RT3 จึงควรได้รับการตรวจสอบเมื่อค่า T3 ของคุณต่ำ
จากนั้น T3 จะต้องเดินทางเข้าไปในเซลล์เพื่อจับกับตัวรับที่ผิวของนิวเคลียสและในขั้นตอนการจับนี้ พวกเขาต้องใช้ :
-วิตามินดี ซึ่งหาได้ไม่ยากจากแสงแดด
-วิตามินเอ เป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน ค้นพบโดย ดร. อี.วี. แมคคอลลัม (E.V. McCollum) นักวิทยาศาสตร์ชาวสหรัฐอเมริกา ร่างกายของเราสามารถสะสมวิตามินเอได้นานมากอาจนานได้ถึง 1 หรือ 2 ปี โดยเก็บไว้ในชั้นเซลล์ไขมัน ด้วยวิตามินเอเป็นวิตามินที่ละลายในไขมันดังนั้นวิตามินเอจะถูกดูดซึมไปใช้ในร่างกายได้ดีที่สุดเมื่อกินร่วมกับอาหารที่มีน้ำมันหรือมีไขมันเป็นส่วนประกอบและเมื่อร่างกายของเราใช้วิตามินเอไม่หมดก็จะถูกเก็บสะสมไว้ที่ตับ วิตามินเอมีหน้าที่ช่วยในการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก การแบ่งตัวของเซลล์ การกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรค ซ่อมแซมผิวของตาและหลอดลมทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ยากขึ้น อีกทั้งวิตามินเอยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวโดยเฉพาะ lymphocyte ให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้อย่างปกติไม่ชะงักหรือหยุดการเจริญเติบโตก่อนวัย
วิตามินเอจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.อยู่ในรูปแบบวิตามินอยู่แล้ว (Proformed Vitamin A) หรือเรียกว่า Retinol ซึ่งได้มาจากเนื้อสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา อาหารประเภทเนื้อ ไข่ ตับและเครื่องใน
2.กำลังจะเป็นวิตามินเอ (Provitamin A) หรือเรียกว่า เบต้า แคโรทีน (Beta-Carotene) เป็นสารที่เมื่อเข้าสู่รางกายแล้วเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอซึ่งพบมากในผักสีต่างๆ เช่น แครอท ผักโขม ฟักทอง ผักบุ้ง แครอท มันหวาน ตำลึง ผักกาดหวาน พริกหวานแดง บล๊อคโคลี่
ร่ายกายคนเราต้องการวิตามินเอในแต่ละวันอยู่ที่วันละ 4,000-5,000 IU ซึ่งการได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอจะส่งผลต่อร่างกายของเราโดยเฉพาะดวงตา ผิวหนัง และระบบภูมิต้านทานโรค อีกทั้งยังช่วยป้องกันอาการเบื่ออาหาร
...ถ้าคุณขาดวิตามิน 2 ตัวนี้ก็จะทำให้ T3 ไม่สามารถทำงานในการกระตุ้นให้เกิดกระบวนการเผาผลาญได้
จะเห็นได้ว่าในทุกขั้นตอนร่างกายต้องใช้สารอาหารเป็นองค์ประกอบ ดังนั้นถ้าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับไทรอยด์ กรุณาตรวจสอบตัวคุณว่า...ได้มอบสิ่งที่พวกเขาต้องการแล้วหรือยังและที่สำคัญไปกว่านั้นท่านกำลังกินสิ่งที่พวกเขาต้องทำงานหนักอยู่หรือไม่
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง