Detox 2 หมอนอกกะลา (ยาว เกิ๊นนน พื้นที่ไม่พอ)
การดีท๊อกซ์แบบโภชนาการบำบัด (Detox diets)
การดีท๊อกซ์แบบโภชนาการบำบัดโดยปกติใช้เวลา 3-21 วันโดยมุ่งเน้นการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายด้วยการเยียวยาตัวของมันเอง เป้าหมายคือเพิ่มพลังงานให้ร่างกายโดยรวม ระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น รักษาอาการปวดหัว เพิ่มสมาธิในการทำงานหรือการจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง รักษาระดับอารมณ์ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปมา เพิ่มระดับภูมิต้านทานลดอาการแพ้ต่อสิ่งต่างๆ เรียกคืนความสามารถปกติของร่างกายในการต้านเชื้อโรค ต้านอาการหวัด ป้องกันความเสื่อมของร่างกายและการแก่ก่อนวัย ดังนี้
• การลดปริมาณของสารเคมีที่นำเข้าสู่ร่างกาย เช่น การรับประทานเฉพาะอาหารประเภทออแกนิก (Organic Food)
• มุ่งเน้นอาหารที่ให้วิตามินสูง สารอาหารที่สำคัญๆต่อร่างกาย และสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายต้องนำไปใช้ในกระบวนการดีท๊อกซ์
• มีส่วนประกอบสำคัญต่อไปนี้ ได้แก่ อาหารที่มีเส้นใย(Fiber)สูง และน้ำสะอาดที่ปราศจากสารพิษต่างๆเพื่อร่างกายนำไปใช้ในการทำงานของลำไส้และการปัสสาวะเพื่อขับถ่ายของเสีย
และยังมีการล้างสารพิษที่เน้นการกำจัดสารโลหะหนัก (Heavy Metal Detox)
การกำจัดสารโลหะหนักเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพมากมายหลายปัญหา พิษของโลหะหนักเป็นสาเหตุหลักหรืออาจเป็นปัจจัยเสริมของอาการเจ็บป่วยหรือโรคต่างๆหลายชนิด เช่น โรคอ่อนเพลียเรื้อรัง, ความผิดปกติทางอารมณ์, มะเร็ง, ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนกลาง ความผิดปกติของต่อหมวกไต, โรคซึมเศร้า, โรควิตกกังวล, อาการแพ้ต่อสารเคมีต่างๆ และอีกมากมาย
ชนิดของโลหะหนัก แหล่งที่มาและอาการของพิษ
อลูมิเนียม
พบในลูมิเนียมฟอยล์, กระป๋อง, ผงฟู, เครื่องสำอาง, ชีส, ดอกไม้ไฟ, สารอมัลกัม (amalgams)ที่ใช้ในงานทันตกรรม, สารระงับกลิ่นกาย (deodorants), ยา, ยาสีฟัน, ยาปราบศัตรูพืช, มลพิษ, เครื่องครัว, ไอเสียรถยนต์, แอสไพริน และอื่นๆอีกมากมาย
อลูมิเนียมอาจทำให้เกิดความบกพร่องทางการเรียนรู้, โรคความจำเสื่อม (Alzheimer), ผิวแห้ง, โรคโลหิตจาง, ปวดหัว, ความผิดปกติของตับ,สูญเสียความจำ, โรคพาร์กินสัน, อาการเสียดท้อง, โรคจิต, อลูมิเนียมมีแนวโน้มที่จะสะสมในไต, ตับ, สมอง, อวัยวะสืบพันธุ์, กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ และกะเพาะอาหาร อาการบางส่วนโดยทั่วๆไปของพิษของอลูมิเนียม จะมีอาการปวดหัว, จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ, ซึมเศร้า, ตาพร่ามัว, อาการชาที่มือและเท้า
โรคหนึ่งที่รู้จักกันแพร่หลายที่เป็นปัญหาสุขภาพอันเกิดจากอลูมิเนียมคือ โรคความจำเสื่อมและสมองเสื่อม
สารหนู
สารหนูใช้ในการชุบสังกะสีและมีการใช้ในโรงไฟฟ้า สารหนูยังพบได้ในสารกำจัดศัตรูพืช, สารเคมีกำจัดวัชพืช, ยาฆ่าแมลง, สารป้องกันความชื้น, สารเคลือบเนื้อไม้ และแก๊สน้ำตาสำหรับควบคุมการจลาจล นอกจากนี้ยังพบสารหนูในอากาศเนื่องจากการเผาไหม้ถ่านหินไม้, โลหะผสมและของเสียที่เป็นสารหนู
สารหนูสามารถทำให้เกิดโรคโลหิตจาง อาการวิงเวียน, อาการเหนื่อยหอบ, การแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด, โรคผิวหนัง, โรคเกี่ยวกับระบบประสาท, โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด, ความดันโลหิตสูง, กล้ามเนื้อหัวใจตาย, สูญเสียการได้ยิน, โรคมะเร็งของผิวหนัง, มะเร็งตับหรือทางเดินหายใจ
สารเบริลเลียม (Beryllium)
พบในผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน, ถ่านหิน, หัวเทียน, หลอดไมโครเวฟ, อุปกรณ์ถ่ายภาพ ฯลฯ
ปอดเป็นอวัยวะส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากสารเบริลเลียม และพบว่าอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด นอกจากนี้ยังอาจทำให้เกิดโรคผิวหนัง แผล ฝี อาการขาดแมกนีเซียม การทำงานผิดปกติของอวัยวะต่างๆ การรบกวนการเผาผลาญแคลเซียมและวิตามินดีของร่างกาย
สารตะกั่ว
พบอยู่ในไอเสียรถยนต์, แบตเตอรี่, ควันบุหรี่, หมึก, เครื่องสำอาง, น้ำยาทำสีผม, ท่อน้ำ, ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา, ผลไม้กระป๋อง,สารกำจัดศัตรูพืช, ดินสอ, สีทาบ้าน, กระดาษหนังสือพิมพ์, ยาสีฟัน, ภาชนะที่ทำจากพีวีซี, กระป๋องเครื่องดื่ม หรือแม้กระทั่งน้ำที่เราดื่ม
สารตะกั่วก่อให้เกิดความบกพร่องของการทำงานของต่อมหมวกไต, ความผิดปกติของพฤติกรรม, โรคหัวใจและหลอดเลือด, อาการซึมเศร้า, ท้องผูก, ความเมื่อยล้า, ความวิตกกังวล, โรคโลหิตจาง, ภูมิแพ้, ปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน, การลดลงของไอคิว (IQ), นอนไม่หลับ, อาการปวดข้อ, โรคไต, ความผิดปกติของตับ, สูญเสียความจำ, ปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน , ปวดกล้ามเนื้อและกล้ามเนื้ออ่อนแรง, เส้นเลือดตีบ, โรคพาร์กินสัน, อาการกระสับกระส่าย, อาการชัก, การเสียชีวิตอย่างฉับพลันในกลุ่มทารก, และอื่น ๆ อีกมากมาย
ตะกั่วยังมีผลต่อการพัฒนาการในเด็กเช่น ปัญหาการเรียนรู้ช้าลง และปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
สารปรอท
พบในสารอมัลกัม (amalgam) ที่ใช้ในงานทันตกรรม นอกจากนั้นยังพบได้ในตัวกรองอากาศของระบบแอร์, แบตเตอรี่, หนังสือพิมพ์, ยาระบาย, ยารักษาโรค, วัคซีน, สารเคมี, ยาฆ่าแมลง, สีทาบ้าน, การสักร่างกาย, เครื่องวัดอุณหภูมิ, กระดาษ, หลอดไฟนีออน, ครีมบำรุงผิว และ อื่นๆอีกมากมาย
สารปรอทมีแนวโน้มที่จะสะสมในไตและสมอง ก่อให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ไตวาย และการทำงานของไตเสื่อมโดยเฉพาะในคนที่มีการใช้ยาระบายที่มีสารปรอท นอกจากนี้ยังรวมถึงปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อาการหลอดลมอักเสบ อาการเมื่อยล้า, นอนไม่หลับ การสูญเสียความจำ, ปวดหน้าอก, เหงือกอักเสบ, ความวิตกกังวล, ความผิดปกติของต่อมหมวกไต, สมองถูกทำลาย, เวียนหัว, กลาก, ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน, ไมเกรน, อาการปวดในแขนขา, การสูญเสียการมองเห็น, ความเสียหายไต, สูญเสียความจำ, ปวดข้อ, ซึมเศร้า, ปัญญาอ่อน, การเสื่อมสภาพของเส้นประสาทและโรคเรื้อรังที่เกิดจากไวรัสแบคทีเรียและเชื้อรา
สารนิกเกิล
จะพบในปุ๋ย, กระบวนการในการแปรรูปอาหาร,สาหร่าย, หอยนางรม, แบตเตอรี่รถยนต์, น้ำมันเชื้อเพลิง, วิปปิ้งครีมเทียม, มาการีน, เครื่องครัวสแตนเลส, ชา, ยาสูบ เป็นต้น สารนิกเกิลอาจก่อทำให้เกิดปัญหาไต, ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน, ปวดหัว, โรคมะเร็งลำไส้หรือระบบทางเดินหายใจ, ความดันโลหิตต่ำ, ปัญหาเกี่ยวกับผิวและปัญหาโรคหอบหืดและไซนัส
การกำจัดสารโลหะหนักออกจากร่างกาย
จากการศึกษาพบว่าสารต่างๆเหล่านี้มีคุณสมบัติในการกำจัดสารโลหะหนักหรือดูดซับสารพิษออกจากร่างกาย
•Chlorella
•Cilantro
• Garlic หรือกะเทียม
• Chlorophyll หรือ สารโคโรฟิลล์
• Magnesium Malate หรือ กรดมาลิค
•N-acetylcysteine or N-A-C
•EDTA (ethylene diamine tetraacetic acid)
ท่านสามารถได้รับสารอาหารเหล่านี้จากการทานผักและผลไม้จำนวนมาก
การดีท๊อกซ์สัตว์จำพวกปรสิต หรือ พยาธิ (Specific Organism Detox)
อาการเหล่านี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าร่างกายมีสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายอยู่ภายใน
• น้ำหนักลดมาก
• พุงใหญ่ ลงพุง หรือ พุงพลุ้ย
• ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง
• อยากอาหารตลอดเวลา หรือ รู้สึกต้องการน้ำตาล
• มีกรดเกินหรือมีกรดแก๊สหลังรับประทานอาหาร
• ลมหายใจมีกลิ่น
• อาการคันทวารหนัก
• มีผื่นคัน หรือ มีปัญหาผิวหนัง
• เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอย่างต่อเนื่อง
• รู้สึกกระวนกระวาย วิตกกังวล หรือ รู้สึกหดหู่
• อารมณ์ไม่ปรอดโปร่ง ขาดสมาธิ
• นอนไม่หลับ
การดีท๊อกซ์จากสารบางอย่าง เช่น ยา หรือ แอลกอฮอล์
การดีท๊อกซ์จากแอลกอฮอล์ (Alcohol detoxification)
การดีท๊อกซ์จากการติดยา (Drug detoxification)
การดีท๊อกซ์แบบ Fat Flush
บางครั้งการสะสมของไขมันจำนวนมากในร่างกาย สาเหตุอาจจะไม่ใช่เพียงแค่การรับประทานมากเกินไป การที่ไขมันถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกายเป็นวิธีการหนึ่งในการปกป้องร่างกายจากสารพิษในสภาวะที่ร่างกายไม่สามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้ในทันที เมื่ออวัยวะที่ทำหน้าที่ในการกำจัดสารพิษ (เช่น ไต ตับ ปอด) อยู่ในภาวะที่ทำงานหนักมากเกินไป ร่างกายมีความจำเป็นต้องกักเก็บสารพิษไว้ก่อนในขณะนั้นด้วยความหวังว่าร่างกายจะสามารถกำจัดมันออกไปได้ในอนาคตเมื่อร่างกายและอวัยวะเหล่านั้นพร้อมทำหน้าที่ได้เต็มที่
ปัญหาคือ หากสารพิษจำนวนมากถูกนำเข้าสู่ร่างกายเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ร่างกายอาจจะไม่สามารถจัดการกับสารพิษสะสมจำนวนมากได้เลย ผลก็คือสารพิษเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในร่างกายเราตลอดไป
Fat Flush หรือการล้างขจัดไขมันจะมุ่งเน้นที่ไปตับ เพื่อเรียกคืนความสามารถในการเผาผลาญไขมัน ในร่างกายของคนเราส่วนใหญ่ตับจะอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าขาดประสิทธิภาพและเต็มไปด้วยสารพิษตกค้าง โดยกระบวนการล้างพิษเราสามารถเรียกคืนความสามารถในการเผาผลาญไขมันและเริ่มนำไปสู่การที่น้ำหนักจะค่อยๆลดลง นอกเหนือจากการควบคุมด้านโภชนาการแล้ว ส่วนเสริมที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยนั่นคือ การนอนหลับให้เพียงพอ การออกกำลังกาย และการมีนิสัยการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการในระยะยาว ซึ่งทำได้ด้วยตัวเองแต่ใช้เวลาค่อนข้างนานหน่อยและมีวินัยอย่างสูงครับ
ครับ ย๊าว ยาว พิมพ์กันจนได้อาการ office syndrome เลยครับ แต่นี่คือความรู้ทั้งหมดที่ผมพอจะรวบรวมได้เพื่อประโยชน์ของทุกคน
ก่อนอำลา หมอนอกกะลา ก็ขอให้ทุกคนทุกท่านมีสุขภาพดีกันถ้วนหน้านะครับ สวัสดีครับ
งานวิจัยที่อยากแนะนำให้อ่านกันครับ
1. Rogers SA. Chemical Sensitivity: Breaking the Paralyzing Paradigm. Internal Medicine World Report 1992; February 1-14:15-16.
2. Rogers SA. Chemical Sensitivity: Breaking the Paralyzing Paradigm. Internal Medicine World Report 1992; March 15-31: 8-31.
3. Lawson L. Staying Well in a Toxic World. Chicago: The Nobel Press, Inc.; 1993.
4. Lawson L. Staying Well in a Toxic World. Chicago: The Nobel Press, Inc.; 1993.
5. Gibson PR. Multiple Chemical Sensitivity. Oakland, California: New Harbinger Publications, Inc.; 2000.
6. Rooney PJ, Jenkins RT, Buchanan WW. A short review of the relationship between intestinal permeability and inflammatory joint disease. Clinical and Experimental Rheumatology 1990; 8(1):75-83.
7. Smith MD, Gibson RA, Brooks PM. Abnormal bowel permeability in ankylosing spondylitis and rheumatoid arthritis. Journal of Rheumatology 1985; 12(2):299-305.
8. Steventon, GB, Heafield MT, Sturman S, Waring RH, Williams AC. Xenobiotic metabolism in Alzheimer’s disease. Neurology, 1990;40(7):1095-1098.
9. Murray Rk, Granner DK, Mayes PA, Rodwell VW. Harper’s Biochemistry, 25th ed. New York: McGraw Hill; 200:780-786.
10. Lüllmann H. Mohr K, Ziegler A, Bieger D. Color Atlas of Pharmacology, 2nd ed. Stuttgart: Thieme; 2000:32-39.
11. Roundtree R. The Use of Phytochemicals in the Biotransformation and Elimination of Environmental Toxins. IN Medicines from the Earth 2003: Official Proceedings. Brevard, North Carolina: Gaia Herbal Research Institute; 2003:115-128.
12. Murray Rk, Granner DK, Mayes PA, Rodwell VW. Harper’s Biochemistry, 25th ed. New York: McGraw Hill; 200:780-786.
13. Lüllmann H. Mohr K, Ziegler A, Bieger D. Color Atlas of Pharmacology, 2nd ed. Stuttgart: Thieme; 2000:32-39.
14. Murray Rk, Granner DK, Mayes PA, Rodwell VW. Harper’s Biochemistry, 25th ed. New York: McGraw Hill; 200:780-786.
15. Lüllmann H. Mohr K, Ziegler A, Bieger D. Color Atlas of Pharmacology, 2nd ed. Stuttgart: Thieme; 2000:32-39.
16. Liska DJ. The Detoxification Enzyme Systems. Alternative Medicine Review 1998;3(3):187-198.
17. Crinnion WJ. Environmental Medicine, Part 2 – Health Effects of and Protection from Ubiquitous Airborne Solvent Exposure. Alternative Medicine Review 2000; 5(2):133-143
18. Hill RH Jr, Ashley DL, Head SL, et al. p-Dichlorobenzene exposure among 1,000 adults in the United States. Arch Environ Health 1995;50:277-280.
19. Roundtree R. The Use of Phytochemicals in the Biotransformation and Elimination of Environmental Toxins. IN Medicines from the Earth 2003: Official Proceedings. Brevard, North Carolina: Gaia Herbal Research Institute; 2003:115-128.
—