หรือนี่คือการรับกรรมจากความรู้ที่ผิดในอดีต

8 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

รายการ หมอนอกกะลา

ตอน..หรือนี่คือการรับกรรมจากความรู้ที่ผิดในอดีต

!! น้ำมันถั่วเหลือง: หนึ่งในส่วนผสมที่เป็นอันตรายมากที่สุดในอาหารแปรรูป

อาหารแปรรูปอาจจะเป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายมากที่สุดต่อคนส่วนใหญ่ซึ่งเอื้อต่อสุขภาพที่ไม่ดีและโรคเรื้อรัง หนึ่งในสาเหตุของปัญหาหลักคือฟรุกโทสจากน้ำเชื่อมข้าวโพดน้ำ (HFCS) ที่อันตราย

-ผู้ร้ายที่สองคือการเติมไฮโดรเจนบางส่วนในน้ำมันถั่วเหลือง

ทั้งสองสิ่งนี้ –เพียงตัวใดตัวหนึ่งอย่างเดียวหรือรวมกัน-สามารถพบได้ในอาหารแปรรูปทุกชนิดและอาหารเหล่านี้น่าจะเป็นปัจจัยหลักสำหรับคนส่วนใหญ่ในโรคความเสื่อมที่เข้าโจมตีในทุกวันนี้

ส่วนหนึ่งของปัญหาที่มีในน้ำมันถั่วเหลืองเติมไฮโดรเจนบางส่วนคือไขมันทรานส์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับอันตรายต่อสุขภาพ อีกส่วนหนึ่งก็คือความเป็นอันตรายในตัวเองของถั่วเหลืองเองและปัจจัยอันตรายที่เพิ่มขึ้นคือ..ความจริงที่ว่าส่วนใหญ่ของทั้งข้าวโพดและถั่วเหลืองมีการดัดแปลงพันธุกรรม

!! ทำไมต้องเติมไฮโดรเจน
ประมาณครึ่งหนึ่งของมันถูกเติมไฮโดรเจนเนื่องจากน้ำมันถั่วเหลืองจะไม่เสถียรพอที่จะถูกนำมาใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร หนึ่งในเหตุผลหลักสำหรับการเติมไฮโดรเจนคือการยืดอายุการเก็บรักษา อาทิเช่นเนยดิบมีแนวโน้มที่จะหืนเร็วกว่าเนยเทียม (margarine)

กระบวนการนี้จึงต้องทำให้น้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้นและเพิ่มจุดหลอมละลายซึ่งช่วยให้สามารถนำมาใช้ในประเภทต่างๆของการแปรรูปอาหารที่ใช้อุณหภูมิสูงขึ้น

!! กระบวนการ Hydrogenate จะทำโดยการบังคับให้ก๊าซไฮโดรเจนเข้าไปในน้ำมันที่ระดับความดันสูง ความจริงคือ !! น้ำมันใด ๆ ก็สามารถ
เติมไฮโดรเจนได้

เนยเทียมเป็นตัวอย่างที่ดี:เกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณไขมันเป็นไขมันทรานส์ กระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนจะทำให้น้ำมันเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบทางเคมีของกรดไขมันที่จำเป็นเช่นการลดหรือหายไปของกรดไลโนเลนิก (กรดไขมันปฏิกิริยาสูงเปลี่ยนเป็นกรดไลโนเลอิกปฏิกิริยาน้อยลง)จึงช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นหืนจากการออกซิเดชันเมื่อนำมาใช้ในการปรุงอาหาร

ในช่วงปลายปี 1990 นักวิจัยเริ่มตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงทางเคมีนี้ว่าอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ ตั้งแต่นั้นมานักวิทยาศาสตร์จึงมุ่นไปที่การตรวจสอบสิ่งนี้เพื่อยุติข้อพิพาท

พึงระวังว่า!! มีความแตกต่างกันระหว่าง "เติมไฮโดรเจนอย่างเต็มที่ (fully hydrogenated) " และ "เติมไฮโดรเจนบางส่วน( partially hydrogenated) " ในขณะที่น้ำมันเติมไฮโดรเจนบางส่วนมีไขมันทรานส์ แต่!! น้ำมันเติมไฮโดรเจนอย่างเต็มที่ !! ไม่ !! เนื่องจากกระบวนการเติมไฮโดรเจนยังคงการเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของกรดไขมันจากไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันอิ่มตัว แต่อย่างไรก็ตามน้ำมันถั่วเหลืองเติมไฮโดรเจนอย่างเต็มที่ก็ยังคงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพเพราะตัวของถั่วเหลืองเอง (อ่านโพสต์ ถั่วเหลือง)

!! อันตรายต่อสุขภาพของไขมันทรานส์ที่พบในน้ำมันเติมไฮโดรเจนบางส่วน

สิ่งนี้เป็นสาเหตุของความผิดปกติและความวุ่นวายในร่างกายของคุณในระดับเซลล์และการศึกษามีการเชื่อมโยงไขมันทรานส์ต่อ :

!! มะเร็ง –โดยรบกวนเอนไซม์ที่ร่างกายของคุณใช้ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง
!! ปัญหาสุขภาพเรื้อรังเช่นโรคอ้วน โรคหอบหืด โรคภูมิคุ้มกันและการเสื่อมสภาพของกระดูก
!! โรคเบาหวาน-โดยการรบกวนการทำงานของตัวรับอินซูลินในเซลล์

!! โรคหัวใจ-โดยการอุดตันหลอดเลือดแดงของคุณ (ในผู้หญิงที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ..การรับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์เพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจหยุดเต้นฉับพลันถึงสามเท่า!)
!! ลดการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยการลดการตอบสนองของภูมิคุ้มกันของคุณ
!! เพิ่มระดับของไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) หรือคอเลสเตอรอลในเลือด ในขณะที่ลดระดับของไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDL) หรือ "ไขมันดี"

!! ปัญหาทางระบบสืบพันธุ์โดยรบกวนเอนไซม์ที่จำเป็นในการผลิตฮอร์โมนเพศจากการรบกวนการใช้งานของไขมันโอเมก้า 3 ที่เป็นประโยชน์

!! โปรดระวัง : ผู้ผลิตอาหารบางรายหลอกผู้ซื้อ - ชั้นเชิงในการได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยาที่จะให้เป็นผลิตภัณฑ์ใด ๆ ผ่านการรับรอง

ทางที่ดีคือ...อย่าเสี่ยงไปกินอาหารสำเร็จรูป

!! ความรู้ที่เปลี่ยนไป !!

-อันตรายของถั่วเหลือง

ไขมันในน้ำมันถั่วเหลืองส่วนใหญ่เป็นโอเมก้า 6 และในขณะที่ร่างกายเราต้องการมันเพียงเล็กน้อยและเป็นเรื่องยากที่ร่างกายจะ
ขาดมันเพราะในอาหารของเราโดยทั่วไปเปี่ยมไปด้วยโอเมก้า 6 ซึ่งส่งผลต่ออัตราส่วนที่ดีต่อโอเมก้า 3
ปริมาณที่มากเกินไปของโอเมก้า 6 ที่พบในอาหารแปรรูป -โอเมก้า 6 อยู่ในเกือบทุกอาหารสัตว์และในพืชหลายชนิด ดังนั้นข้อ
อ้างที่ว่าจะขาดโอเมก้า 6 .....เป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้มันยังมีการก่อความเสียหายและส่งเสริมการอักเสบเรื้อรังในร่างกายของคุณซึ่งเป็นปัญหาพื้นฐานสำหรับแทบทุกโรคเรื้อรัง

ก่อนซื้ออาหารสำเร็จรูปในครั้งต่อไป..ให้ระลึกถึงโพสต์นี้นะครับ

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

สวัสดี

อ้างอิง :
1 Soyinfocenter.com
2 Harvard, Trans fats
3 Monsanto.com Vistive Low-Linolenic Soybeans
4 Monsanto.com Plant Breeding Practices
5 Chemical Research in Toxicology 2010; 23(10):1586–1595
6 Chemical Research in Toxicology 2010; 23(10):1586–1595

— กับ Weerawit Ratchatasakorn

หรือนี่คือการรับกรรมจากความรู้ที่ผิดในอดีต, santi manadee, สันติ มานะดี