รายการ หมอนอกกะลา
ตอน มาอ่านสุขศึกษา เบื้องต้นกันใหม่อีกสักรอบ นะ (ย๊าว ยาว)
เมื่อวานนี้มีคนโทรศัพท์มาหาและแนะนำตัวว่า เพื่อนผมบอกให้โทรมา ใจความว่า ต้องฟอกไตทางหน้าท้องวันละสี่ครั้ง พร้อมกับด่าทอโรงพยาบาลในนครศรีธรรมราชหลายโรงพยาบาลชนิดมากมายก่ายกอง ผมถามไปว่า คุณทำให้เลือดคุณสกปรกมานานจนไตฟังเลยรึ ก็ได้รับคำตอบมาว่า มีหมอที่โรงพยาบาลสุดท้ายที่พบว่าเป็นโรคไตเข้าแล้ว ไขความลับว่า ก็คุณเล่นกินยาต่อเนื่องมาตั้ง 30 ปี ผมถามว่ามันเริ่มที่ตรงไหนล่ะ คำตอบคือ เป็น รูมาตอยด์ ผมถึงกับอึ้งกิมกี่เลย โรคกระจอกแบบนี้ ทำให้ไตพังได้ด้วยหรือ มันรักษาง่ายจะตายไป แต่ธรรมดาของคนที่เป็นโรคนี้ก็เป็นอย่างนี้แหละครับ พอปวดก็กิน เพร็ดนิโซโลน ก็สเตียรอยด์นี่แหละ มันหายปวดเร็วทันใจดี แต่พอมันขับออกไม่หมด มันก็ค้างที่ไต ให้นึกถึงการกรองน้ำซิ ถ้าน้ำสกปรก หัวกรองก็ตันเร็ว พังเร็ว ก็ต้องฟอก ต้องล้าง มันก็ธรรมดา แต่มันทรมานและแพงเสียด้วยซิ
และการฟื้นฟูไตก็ไม่ใช่เรื่องยากหรอกครับ ผมยังจดจำคำสอนของอาจารย์ท่านหนึ่งชนิดไม่เคยลืมเลือนท่านเริ่มการสอนด้วยคำที่สะกดวิญญานผมเลยล่ะ “ Your Body is Designed to Heal Itself. Why Not Help it - Rather Than Hinder it? ท่านชื่อ Lorraine Day ครับ มันแปลว่า ร่างกายของคุณถูกออกแบบมาเพื่อให้ รักษาตัวเอง ทำไมไม่ช่วยมัน – แทนที่จะขัดขวางมัน
เรื่อง รูมาตอยด์ ค่อยว่ากัน มาว่าที่ไต จากคำที่ว่า” ร่างกายของคุณถูกออกแบบมาเพื่อให้ รักษาตัวเอง” มันชัดเจนอยู่ในตัวแล้วล่ะ แต่ร่างกายต้องการอะไรในการรักษาตัวเองล่ะ มาอ่านกัน
สารอาหาร
สารอาหาร คือ “ องค์ประกอบของสารประกอบทางเคมีของธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในอาหารที่เรากินเข้าไป สารอาหารมีโครงสร้างโมเลกุลเฉพาะตัว เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า อาหารแต่ละชนิดประกอบด้วยโมเลกุลของสารอาหารหลายๆ ตัว ” ร่างกายเราต้องการสารอาหารกว่า 40ชนิด และเพื่อให้ง่ายอีกเช่นกัน เราจึงจัดเป็นสารอาหารออกเป็นพวกๆ ที่สำคัญมี 6 จำพวก ได้แก่ สารอาหาร คาร์โบไฮเดรท , โปรตีน , ไขมัน , วิตามิน , เกลือแร่ , และน้ำ สารอาหารแต่ละชนิดมีหน้าที่เด่นเฉพาะแตกต่างกัน สารอาหารคาร์โบไฮเดรท ทำหน้าที่เป็นสารตัวแรกที่ร่างกายจะนำไปใช้เป็นพลังงาน สารอาหารชนิดนี้เป็นแหล่งที่ดีที่สุดที่จะทำให้พลังงานแก่ร่างกาย หากร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้ไม่เพียงพอ จะสลายสารไขมันมาใช้เป็นพลังงาน หากไขมันไม่พอจะสลายสารโปรตีนมาใช้เป็นพลังงาน ตามลำดับ และคนที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 (เบาหวานแห้ง)ก็เข้าสู่โหมดสลายโปรตีนมาใช้ เลยพากันแห้งเหี่ยวไร้เรี่ยวแรง แต่ตายยากเสียด้วยนะ และยาก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก น่าจริง
แต่การที่ปฏิกิริยาทางเคมีจะสลายเอาโปรตีนภายในร่างกายมาใช้เป็นพลังงานได้ก็ต่อเมื่อร่างกายขาดสารอาหารจากคาร์โบไฮเดรตและไขมันอย่างรุนแรงหรือร่างกายเปลี่ยนโหมด แต่ ถ้ามีสารคาร์โบไฮเดรทมากเกินไป ร่างกายจะเก็บสะสมไว้ในรูปของไขมัน สำหรับอาหารที่ให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรทคืออาหารหมู่ 2(ในบทความนี้นะ) สารอาหารโปรตีน มีหน้าที่เกี่ยวกับการสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อเพื่อการเจริญเติบโตของร่างกาย หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ หรือกล่าวง่ายๆ คือ เป็นสารตั้งต้นของการเสริมสร้างอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายไม่ว่าจะเป็น เนื้อเยื่อ กล้ามเนื้อ เลือด ฮอร์โมน น้ำย่อย สารอาหารโปรตีนจะเป็นตัวทำหน้าที่โดยตรง หรือเมื่อมีบาดแผลร่างกายจะใช้สารโปรตีนซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพเดิม
หากร่างกายขาดสารอาหารโปรตีน ร่างกายจะไม่สามารถใช้สารอาหารตัวอื่นๆ เข้ามาทำหน้าที่ทดแทนได้ สารอาหารโปรตีนจึงมีความสำคัญต่อวัยที่กำลังเจริญเติบโต และหญิงมีครรภ์ ส่วนวัยที่มีการเจริญเติบโตไปแล้ว ความต้องการโปรตีนของร่างกายจะลดลง แต่ร่างกายยังมีความต้องการเพื่อการซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่สึกหรอ อาหารที่ให้สารอาหารโปรตีนคืออาหารหมู่ 1
สารอาหารไขมัน สารอาหารชนิดนี้แม้จะให้พลังงานได้มากกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนก็ตาม แต่ไม่ใช่หน้าที่เด่นเฉพาะตัว ร่างกายไม่ได้ใช้สารไขมันเป็นตัวแรกในการนำไปสร้างพลังงาน หน้าที่เด่นของไขมันคือ ทำหน้าที่เป็นพาหะ หรือเคลื่อนย้าย หรือขนส่ง สารที่ละลายในไขมัน ไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น ขนส่งหรือเคลื่อนย้าย วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และ วิตามินเค ไปยังอวัยวะต่างๆ ซึ่งหากร่างกายไม่ได้รับไขมัน วิตามินเหล่านี้ก็จะไม่ถูกขนส่ง ส่งผลให้เกิดโรคขาดวิตามินดังกล่าว นอกจากนี้ยังช่วยในการดูดซึมวิตามินดังกล่าวในระบบทางเดินอาหาร ไขมันทำให้เรารู้สึกอิ่มได้นาน สารอาหารไขมันจึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าสารอาหารตัวอื่นๆ และหากมีมากจะสะสมในอยู่ในร่างกาย
อาหารที่ให้สารอาหารไขมันคืออาหารหมู่ 5
สารอาหารวิตามิน แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยคือ สารอาหารวิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามินซี และกลุ่มวิตามินบีรวม ( วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 หรือวิตามินบี 12) ส่วนอีกกลุ่มคือ สารอาหารวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และ วิตามินเค หน้าที่เด่นเฉพาะของวิตามินคือ ทำหน้าที่ร่วมกับน้ำย่อยหรือเอนไซม์ ในกระบวนการใช้สารอาหารในร่างกายเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาอย่างสมบูรณ์ สารอาหารวิตามินแต่ละตัวมีหน้าที่เด่นเฉพาะ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ภายในเซลล์เกิดการออกซิไดซ์จากอนุมูลอิสระ หรือกล่าวง่ายๆ คือ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารวิตามินเค จะทำหน้าที่เป็นสารช่วยในการแข็งตัวของเม็ดเลือดได้เร็วขึ้น
ส่วนที่กล่าวว่าสารอาหารวิตามินทำหน้าที่ป้องกันโรคนั้น เป็นผลทางอ้อมครับ ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง ดังจะเห็นได้จาก การไม่กินอาหารที่มีวิตามินบี 1 เป็นระยะเวลานาน จนกระทั่งร่างกายเกิดอาการของโรคเหน็บชา หรือในกรณีที่ไม่กินอาหารที่มีวิตามินซีเป็นเวลานาน จนกระทั่งมีเลือดออกตามไรฟัน นั่นคือผลจากการขาดวิตามินซี ดังนั้นควรกินอาหารที่มีสารอาหารวิตามินอย่างเพียงพอต่อความต้องการ จึงจะไม่ปรากฏอาการของโรค ร่างกายมีความสามารถในการสะสมวิตามินที่ละลายในไขมันไว้ใช้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำ หากร่างกายได้รับเกินความต้องการจะถูกขับออกมาพร้อมกับปัสสาวะ
อย่างไรก็ตามหากร่างกายได้รับวิตามินมากเกินความต้องการจะเกิดผลเสียเช่นกัน เพราะร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารวิตามินในปริมาณที่ค่อนข้างน้อย แต่ร่างกายไม่สามารถทำงานได้ถ้าปราศจากสารอาหารวิตามิน ดังนั้นสารอาหารวิตามินจึงมีความสำคัญอีกเช่นกัน อาหารที่ให้สารอาหารวิตามินคืออาหารหมู่ 3 และหมู่ 4
สารอาหารเกลือแร่ ลักษณะหน้าที่เด่นเฉพาะของสารอาหารนี้คือ ทำหน้าที่เป็นตัวเสริม , ทำหน้าที่เป็นตัวควบคุม , และทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการทำงานของปฏิกิริยาทางเคมีภายในเซลล์ ตัวอย่างเช่น เกลือแร่แคลเซียม และฟอสฟอรัสเป็นสารที่ร่างกายต้องใช้สร้างกระดูกและฟัน เกลือแร่บางตัวทำให้เกิดความสมดุลของความเป็นกรดและด่างภายในร่างกาย บางตัวเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือด บางตัวก็มีส่วนสำคัญที่ร่างกายใช้ประกอบในการสังเคราะห์ฮอร์โมน
สารอาหารเกลือแร่มีอยู่ประมาณ 21 ชนิดที่สำคัญต่อร่างกาย เกลือแร่ที่ร่างกายต้องการมากคือ แคลเซียม ซึ่งแคลเซียมเป็นส่วนประกอบของกระดูก , ฟัน , กล้ามเนื้อ , และในระบบเลือด เกลือแร่ประเภทอื่นที่ร่างกายต้องการนอกเหนือจากแคลเซียม ได้แก่ โซเดียม , โพแทสเซียม , ฟอสฟอรัส , แมกนีเซียม , คลอไรท์ , เหล็ก , ไอโอดีน , ทองแดง , สังกะสี , ฟลูออไรท์ เป็นต้น แต่ละชนิดจะมีหน้าที่ต่างกัน ถ้าขาดก็จะมีผลเสียต่อร่างกาย
ด้วยเหตุนี้ร่างกายจึงขาดเกลือแร่ไม่ได้ อาหารที่ให้สารอาหารเกลือแร่คืออาหารหมู่ 3 และหมู่ 4 สารอาหารน้ำ น้ำแตกต่างจากสารอาหารตัวอื่นคือ น้ำเป็นทั้งสารอาหารและอาหาร น้ำทำหน้าที่เด่นเฉพาะคือ เป็นตัวทำให้เกิดการละลายและนำสารต่างๆ ไหลเวียนไปทั่วร่างกาย และขณะเดียวกันของเสียบางส่วนในเซลล์ที่สามารถละลายในน้ำได้จะถูกทำละลายและขับออกพร้อมกับปัสสาวะ ในร่างกายมีน้ำประมาณ 2 ใน 3 ส่วน กระจายอยู่ในส่วนประกอบต่างๆ หากเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายสูญเสียน้ำประมาณร้อยละ 10 ไตจะทำงานผิดปกติ และถ้าสูญเสียน้ำไปประมาณร้อยละ 20 อาจจะทำตายได้เนื่องจากสภาวะขาดน้ำ น้ำจึงเป็นสารอาหารและอาหารที่สำคัญ เราอาจอดอาหารประเภทอื่นๆ ได้เป็นเดือน แต่ขาดน้ำไม่ถึง 2 หรือ 3 วันก็อาจจะเสียชีวิตได้ ส่วนอาหาร 5 หมู่ นั้นประกอบด้วย
หมู่ที่ 1: เนื้อสัตว์ต่างๆ ( เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อไก่ กุ้ง หอย ปู ปลา ) ไข่ ถั่วเมล็ด และนม
หมูที่ 2: ข้าวหรือแป้ง( ข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ข้าวสาลี ) น้ำตาล เผือก มัน
หมู่ที่ 3: ผักใบเขียว และพืชผักอื่นๆ เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง แตงกวา ตำลึง ยอดแค
หมู่ที่ 4: ผลไม้ต่างๆ เช่น กล้วยสุก มะละกอสุก เงาะ ลำไย ชมพู่ มังคุด
หมู่ที่ 5 น้ำมัน ( น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันดอกทานตะวัน เป็นต้น)
น้ำมันและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู เนย ครีม สิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งในปัจจุบันเกี่ยวกับอาหารคือ สารพิษตกค้าง เพราะพบว่ามีมากขึ้น ดังนั้นไม่ว่าสิ่งใดที่เราหยิบเข้าปาก เราควรจะต้องพิจารณาถึงความสะอาด ปราศจากสารพิษตกค้าง และคุณค่าทางโภชนาการของสิ่งนั้นๆ หากเราไม่ใช่ผู้ที่เลือกสรรอาหารมาปรุงเพื่อกินเอง เราไม่สามารถแน่ใจได้ทั้งหมดว่าสิ่งที่เราหยิบเข้าปาก จะสะอาดและปราศจากสารพิษตกค้างอันเป็นสารที่จะก่อให้เกิดมะเร็ง หรือทำลายระบบอวัยวะภายในของร่างกายเรา
แค่นี้ครับ ร่างกายต้องการแค่นี้จริง ๆ แต่เรานี่แหละจะให้กับร่างกายเราได้หรือไม่ หรือ กิเสศจะชนะเรา ๆ ท่าน ๆ เสมอไปแล้วก็พากันป่วย
สวัสดี