i-nerge อิ-เนอร์จ

3 เดือนที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

i-nerge
อิ-เนอร์จ

แรงบันดาลใจ

แผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อใครหลายคนยาวนานมาก จนทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันเปลี่ยนแปลงไปและยังมีใครหลายคนขาดพลังงาน อ่อนแรง เหนื่อยล้าและไม่สามารถประกอบกิจได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็น
กรดไหลย้อน ลำไส้แปรปรวน แพนิค ซึมเศร้า โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร น้ำในหูไม่เท่ากัน โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับอสุจิ และผู้ที่กินยาลดไขมันทั้งหลาย จึงเห็นควรว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

คำอธิบาย

i-nerge
อิ-เนอร์จ

ความแตกต่างของโคคิวเท็น

โคคิวเท็นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ ยูบิควิโนน (Ubiquinone CoQ10) และยูบิควินอล (‘active’ Ubiquinol CoQ10 ) โคคิวเท็นทั้งสองรูปแบบนี้มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามร่างกายของเราจำเป็นต้องแปลงโคคิวเท็นเป็นยูบิควินอลก่อน จึงจะนำไปใช้สร้างพลังงานได้ ซึ่งถือเป็นงานหนักมากและจะยิ่งยากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น เนื่องจากความสามารถในการผลิตและแปลงโคคิวเท็นเป็นยูบิควินอลของร่างกายจะลดลงเมื่อเราอายุมากขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ยูบิควินอลจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมของผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี

ยูบิควินอลได้รับการขนานนามว่าเป็นโคคิวเท็นรูปแบบที่ "พร้อมสำหรับร่างกาย" ซึ่งไม่จำเป็นต้องแปลง ดูดซึมได้ทันทีและดูดซึมได้เร็วกว่า สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้น ยูบิควินอลเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการคืนสภาพพื้นฐานที่ดี ยูบิควินอลยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดละลายในน้ำซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะที่ไม่มีอยู่ใน CoQ10 รูปแบบยูบิควิโนน

CoQ10 คืออะไร

คุณคงไม่รู้มากนักหรืออาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสารอาหารอันน่าทึ่งนี้คืออะไร ไม่ใช่ทุกวันที่เราจะพูดถึงร่างกายของเราในระดับเซลล์ แต่การได้รู้จักโลกของ CoQ10 นั้นน่าสนใจมาก

ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์ ภายในเซลล์เกือบทุกเซลล์มีไมโตคอนเดรียอยู่หลายพันตัว ไมโตคอนเดรียเป็นที่รู้จักในฐานะ "แหล่งพลังงาน" ของเซลล์ ไมโตคอนเดรียผลิตพลังงานที่เซลล์ต้องการเพื่อทำงานในรูปแบบของ ATP (อะดีโนซีนไตรฟอสเฟต)
CoQ10 (ยูบิควิโนน) และยูบิควินอลรูปแบบที่ใช้งานได้ช่วยผลิตพลังงานในเซลล์ได้มากกว่า 95% โดยมีหน้าที่ส่งเสริมการผลิต ATP ในเยื่อหุ้มชั้นในของไมโตคอนเดรีย

CoQ10 ทำงานอย่างไร

หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก CoQ10 เซลล์ก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ เช่นเดียวกับรถยนต์ เซลล์ก็ต้องการเชื้อเพลิงเพื่อทำงาน ระดับ CoQ10 ที่ไม่เพียงพอในไมโตคอนเดรียอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและอ่อนแรง และอาจนำไปสู่ปัญหาในการมีสมาธิอีกด้วย

ยูบิควินอลพบได้ในอาหาร เช่น อกไก่ อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คุณจะต้องกินเนื้อไก่ 34 ชิ้น (ชิ้นละ 170 กรัม) หรืออะโวคาโด 60 ลูก หรือน้ำมันมะกอก 133 ช้อนโต๊ะ จึงจะได้รับสารอาหารที่ใกล้เคียงระดับที่เหมาะสม

CoQ10 พบได้ที่ไหน

ย้อนกลับไปในปี 1957 การวิจัยอย่างกว้างขวางที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซินเกี่ยวกับการทำงานของไมโตคอนเดรียนำไปสู่การค้นพบ CoQ10 นักวิจัยพบว่าโมเลกุลนี้มีความจำเป็นต่อการสร้างพลังงาน ATP เนื่องจากกล้ามเนื้อต้องการพลังงานสูง นักวิจัยจึงสามารถระบุได้ว่ากล้ามเนื้อหัวใจมีไมโตคอนเดรียในปริมาณมากที่สุด และด้วยเหตุนี้จึงมี CoQ10

จากข้อมูลนี้ นักวิจัยจึงสำรวจคุณค่าของ CoQ10 ที่สัมพันธ์กับสุขภาพของหัวใจและระดับพลังงาน ตั้งแต่นั้นมา มีการศึกษามากมายที่สำรวจบทบาทของ CoQ10 ในระบบหัวใจและหลอดเลือด และนั่นคือเหตุผลที่ผู้ประกอบวิชาชีพหลายคนแนะนำให้ใช้ CoQ10 เพื่อสนับสนุนสุขภาพของหัวใจ

CoQ10 ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร

CoQ10 เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานของเซลล์และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งสองอย่างนี้มีส่วนช่วยในการรักษาเซลล์ CoQ10 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยสนับสนุนสุขภาพของหัวใจและการควบคุมน้ำตาลในเลือด ในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระ มันอาจช่วยลดความเสียหายจากออกซิเดชันที่อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพเฉพาะได้

CoQ10 ส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลและสุขภาพหัวใจอย่างไร

สแตตินเป็นยาลดไขมันที่ลดระดับคอเลสเตอรอลซึ่งมักถูกกำหนดให้ใช้เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหรือเกิดภาวะสุขภาพหัวใจซ้ำ ปัจจัยหลายประการกำหนดว่าบุคคลนั้นจำเป็นต้องใช้สแตตินหรือไม่ ได้แก่ คอเลสเตอรอลสูง ความเสี่ยงในการเกิดภาวะหัวใจ การวินิจฉัยภาวะหัวใจ หรือภาวะทางพันธุกรรม สแตตินจะป้องกันไม่ให้ร่างกายผลิตคอเลสเตอรอลและป้องกันการสะสมของคราบพลัคที่ผนังหลอดเลือดแดง สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าคอเลสเตอรอลหรือสารประกอบไขมันที่หมุนเวียนอยู่ในเลือดไม่ใช่คอเลสเตอรอลที่ไม่ดีทั้งหมด

มีคอเลสเตอรอลอยู่ 2 ประเภท:

ไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) มักเรียกกันว่าคอเลสเตอรอล "ไม่ดี" เนื่องจากสามารถสะสมในหลอดเลือดแดงและสร้างคราบพลัคที่จำกัดเลือดที่มีออกซิเจนไหลเข้าสู่หัวใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแนะนำให้จำกัดแหล่งอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมัน น้ำมันพืชอิ่มตัว อาหารทอด เนื้อแปรรูป ขนมอบและเค้ก

ในทางกลับกัน ไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) เรียกอีกอย่างว่าคอเลสเตอรอล "ดี" เนื่องจากช่วยกวาดคอเลสเตอรอล "ไม่ดี" ออกจากหัวใจและไปที่ตับ ซึ่งคอเลสเตอรอลดังกล่าวจะถูกขับออกจากร่างกายได้ มีแหล่งคอเลสเตอรอล "ดี" ในอาหารที่ยอดเยี่ยมอยู่บ้าง เช่น ผัก ถั่ว และปลาที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เพื่อสุขภาพหลอดเลือดและหัวใจที่ดี คุณต้องใช้แนวทางหลายแง่มุม

เหตุใดจึงต้องรับประทานยูบิควินอลร่วมกับสแตติน

เป็นที่ทราบกันดีว่าสแตตินจะทำให้ CoQ10 ในเซลล์หมดไป ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมหลายคนจึงรายงานว่ารู้สึกอ่อนล้าและอ่อนล้ามากขึ้นเมื่อรับประทานยานี้ ผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์หลายคนแนะนำให้เสริม CoQ10 ร่วมกับสแตตินเพื่อลดผลข้างเคียง

ยูบิควินอล(Ubiquinol)คืออะไร

CoQ10 มีอยู่ 2 รูปแบบ ได้แก่ ยูบิควิโนน (รูปแบบออกซิไดซ์) และยูบิควินอล (รูปแบบที่ใช้งานได้) ร่างกายต้องแปลงยูบิควิโนนเป็นยูบิควินอลก่อนจึงจะนำไปใช้ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเราอายุมากขึ้น

ยูบิควินอลมีความสามารถในการดูดซึมได้ดีกว่ายูบิควิโนน จึงมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมที่ดี สารคล้ายวิตามินนี้เกี่ยวข้องกับการผลิตพลังงานของเซลล์ การทำงานของหัวใจ ความสมบูรณ์ของเพศชาย และความเป็นอยู่โดยทั่วไปของผู้สูงอายุ

ยูบิควินอลเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดชนิดหนึ่ง โดยปกป้องเซลล์จากการสะสมของอนุมูลอิสระและความเครียดออกซิเดชันที่อาจเป็นอันตรายได้ อนุมูลอิสระเกิดขึ้นเมื่อร่างกายเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อแหล่งภายนอก เช่น แสงแดด ควันบุหรี่ และมลพิษ อนุมูลอิสระสมคบคิดกันเพื่อทำลายเซลล์ โปรตีน และ DNA และมักถูกเรียกว่าตัวร้ายที่อยู่เบื้องหลังการแก่ชรา

ยูบิควินอลจำเป็นในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้ในปริมาณที่เพียงพอ จึงเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าการเสริมด้วยอาหารเสริมนั้นมีประโยชน์อย่างมาก

ยูบิควินอลทำอะไรกับร่างกาย

นี่คือคุณสมบัติที่น่าประทับใจโดยสรุปของยูบิควินอล:

• สนับสนุนการผลิตพลังงานของเซลล์

• สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งต่อสู้กับผลกระทบของความเครียดออกซิเดชันและอนุมูลอิสระ

• สนับสนุนให้หัวใจและระบบหลอดเลือดมีสุขภาพดี

• ช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้มีสุขภาพดี

• สนับสนุนการเจริญพันธุ์และการสืบพันธุ์

พลังงานและสมรรถภาพ

เป็นที่ทราบกันดีว่าบทบาทที่สำคัญที่สุดของ CoQ10 อยู่ที่การสร้างพลังงานของเซลล์ กระบวนการนี้ผลิตพลังงานของเราได้ 95% ซึ่งจะกระจายไปยังสมอง หัวใจ และกล้ามเนื้อ เมื่อเราใช้พลังงานในระดับที่สูง ไม่ว่าจะเป็นทางจิตใจหรือร่างกาย CoQ10 มีความจำเป็นต่อประสิทธิภาพโดยรวมของเรา

ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาต่างกระตือรือร้นที่จะใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติเสริมสร้างสมรรถภาพของ ubiquinol วารสารของ International Society of Sports Nutrition ได้ทำการทดลองCoQ10 ในรูปแบบยูบิควินอลเพื่อทำความเข้าใจว่า CoQ10 สามารถเพิ่มการผลิตพลังงานสูงสุดในนักกีฬาที่ผ่านการฝึกฝนได้หรือไม่ พวกเขาค้นพบว่าประสิทธิภาพทางกายภาพดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อนักกีฬารับประทานอาหารเสริมยูบิควินอลทุกวันเป็นเวลา 6 สัปดาห์

ความเหนื่อยล้า

ไม่ใช่แค่เพียงอายุเท่านั้นที่ส่งผลต่อระดับพลังงานของเรา ความเครียดที่ยาวนาน วิถีชีวิตที่เร่งรีบ การเลือกรับประทานอาหารที่ไม่ดี การมีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมสามารถกัดกินพลังงานสำรองของเราได้ แม้ว่าการเพิ่มพลังงานเพื่อทำงานประจำวันจะมีผลอย่างมากต่อการเลือกวิถีชีวิตของเรา แต่เราสามารถเพิ่มระดับพลังงานโดยรวมของเราได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เสริม CoQ10 ทุกวัน

วิธีเลือกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสม

หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริม CoQ10 เพื่อเสริมอาหารของคุณ คุณต้องหาสูตรที่มีคุณภาพ:

• มาจากธรรมชาติ: เนื่องจากมีคุณสมบัติทางชีววิทยาเหมือนกับ CoQ10 ที่ร่างกายของเราผลิตขึ้น

• ไปหาผู้เชี่ยวชาญ: เลือกผลิตภัณฑ์แบบผสมที่เหมาะกับความต้องการด้านสุขภาพของคุณโดยเฉพาะ หากคุณต้องการเสริมสร้างสุขภาพหัวใจ คุณอาจพิจารณาใช้ CoQ10 ร่วมกับน้ำมันปลา โอเมก้า 3 ที่พบในน้ำมันปลามีความสำคัญต่อสุขภาพหัวใจ กรดไขมันสายยาว EPA และ DHA มีส่วนช่วยให้หัวใจทำงานเป็นปกติ รักษาระดับความดันโลหิตให้ปกติและรักษาระดับไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันชนิดหนึ่ง) ในเลือดให้ปกติ

• เลือกการดูดซึมขั้นสูง: หากคุณมีปัญหาในการย่อยอาหาร รับประทานยาเพื่อลดคอเลสเตอรอล หรือมีปัญหาสุขภาพเฉพาะเจาะจง ยูบิควินอลเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม เลือกผลิตภัณฑ์ขนาด 100 มก. วันละครั้ง เพราะเทียบเท่ากับแหล่งอาหารดังกล่าวข้างต้นในแคปซูลเพียง 1 เม็ด

"การดูดซึม" หมายถึงปริมาณของสารที่ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย ดังนั้นการตรวจสอบการดูดซึมของอาหารเสริม CoQ10/Ubiquinol จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา เพราะสิ่งนี้จะกำหนดปริมาณที่ร่างกายจะดูดซึมได้

ในทำนองเดียวกัน สิ่งสำคัญคือต้องทาน CoQ10 ในปริมาณที่ถูกต้อง 30 มก. เป็นตัวเลือกที่ดีในระยะยาวสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 30-40 ปีที่มีวิถีชีวิตที่ยุ่งวุ่นวายและกำลังมองหาวิธีรักษาระดับพลังงาน ในทางกลับกัน 100-200 มก. มักเป็นระดับที่แนะนำสำหรับผู้ที่ใช้ยาเพื่อลดคอเลสเตอรอล

หากคุณต้องการรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ผู้เชี่ยวชาญมักแนะนำให้ใช้ระหว่าง 100 มก. ถึง 600 มก.

การดูดซึมของอาหารเสริม CoQ10/Ubiquinol

CoQ10 แบบ Ubiquinone เป็นสารอาหารที่ละลายในไขมัน ดังนั้นจำเป็นต้องแขวนลอยในน้ำมันเพื่อให้แน่ใจว่าลำไส้สามารถดูดซึมได้ ส่งผ่านไปยังระบบน้ำเหลืองและหมุนเวียนในกระแสเลือด

เมื่อเลือกสูตร CoQ10 สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงการดูดซึม ผลิตภัณฑ์บางอย่างอาจใช้สารเพิ่มความสามารถในการละลายเพื่อเพิ่มการดูดซึม แต่สารเหล่านี้อาจมีผลข้างเคียง หรืออาจนำไปสู่ปัญหากรดไหลย้อนอย่างรุนแรงได้

i-nerg Ubiquinol ถูกพัฒนาเพื่อให้ละลายในน้ำได้จึงไม่ส่งผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ในบางราย

ขนาดรับประทาน ขึ้นอยู่กับอายุและอาการที่ไม่พึงประสงค์
รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย

ขนาดบรรจุ 30 แคปซูลใน 1 ขวด
ใน 1 แคปซูลให้ปริมาณ Ubiquinol 30 mg.
ราคา 950 บาท

คำถามที่พบบ่อย:

จะรู้ได้อย่างไรว่าโคคิวเท็นเป็นแบบไหน

แบบ Ubiquinone จะมีการบรรจุสิ่งที่เป็นไขมันไว้ในแคปซูลไม่ว่าจะเป็นเลซิตินหรือน้ำมันต่างๆ