ไทรอยด์เป็นพิษ Hyperthyroidism

9 เดือนที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษเกิดขึ้นเมื่อต่อมไทรอยด์ของคุณผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการที่อาจรวมถึงน้ำหนักลดและความอยากอาหารเพิ่มขึ้น

ต่อมไทรอยด์เป็นต่อมขนาดเล็กรูปผีเสื้ออยู่ที่ด้านหน้าคอของคุณ ผลิตไทรอกซีน (T4) และไตรไอโอโดไทโรนีน (T3) ซึ่งเป็นฮอร์โมนหลัก 2 ชนิดที่ควบคุมวิธีที่เซลล์ใช้พลังงาน ต่อมไทรอยด์ของคุณควบคุมการเผาผลาญของคุณโดยการปล่อยฮอร์โมนเหล่านี้

การเผาผลาญ (Metabolism)

การเผาผลาญ (Metabolism) คือ การเปลี่ยนอาหารที่เราทาน ให้อยู่ในรูปของเชื้อเพลิงพลังงาน เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการต่างๆ เช่น การหายใจ การทำงานของอวัยวะภายใน การเคลื่อนไหวร่างกาย การสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก การเผาผลาญเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นในเซลล์ต่างๆ และสำคัญต่อการดำรงชีวิต

การเผาผลาญแบ่งได้เป็น 2 กระบวนการ คือ การสลายหรือแคแทบอลิซึม (Catabolism) เป็นการสลายสารอินทรีย์ เช่น น้ำตาลกลูโคส ให้เป็นพลังงาน และ การสร้างหรือแอแนบอลิซึม (Anabolism) เป็นการใช้พลังงานที่ได้ในการสร้างส่วนประกอบของเซลล์ เช่น โปรตีน, DNA และ RNA ซึ่งกระบวนการทั้งสองจะเกิดควบคู่กันไปอย่างสมดุล

การเผาผลาญสารอาหารแต่ละชนิดสารอาหาร ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่และวิตามิน จะผ่านกระบวนการที่แตกต่างกันในการสลายและนำมาใช้ในร่างกาย

เมื่อไทรอยด์ของคุณสร้าง T3, T4 หรือทั้งสองอย่างมากเกินไป มันจะเร่งระบบในร่างกายคุณให้เร็วขึ้น ทำให้เกิดความทุกข์ การวินิจฉัยและการรักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอย่างทันท่วงทีสามารถบรรเทาอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและทำให้หายขาดได้

อะไรทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน

ภาวะต่างๆ อาจทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินได้ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดมาจากระบบการย่อยและการดูดซึมมีปัญหา โรคกรดไหลย้อน โรคลำไส้แปรปรวนและโรคลำไส้อักเสบ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน โรคเกรฟส์คือโรคแพ้ภูมิตัวเองชนิดหนึ่ง ซึ่งมีปัญหาที่ระบบลำไส้เช่นกัน จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของคุณโจมตีต่อมไทรอยด์ด้วยแอนติบอดี ส่งผลให้มีการปล่อยฮอร์โมนมากเกินไป

สาเหตุอื่นๆ ที่น่าเชื่อถือของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ได้แก่:

• ไอโอดีนส่วนเกิน แร่ธาตุนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญใน T4 และ T3 และไอโอดีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินชั่วคราวได้ ไอโอดีนสามารถรับประทานผ่านอาหาร เช่น ปลาและผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้ยังมีอยู่ในยาบางชนิด เช่น อะมิโอดาโรน (สำหรับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ) ยาแก้ไอ และสีย้อมทางการแพทย์

• ต่อมไทรอยด์อักเสบ (การอักเสบของต่อมไทรอยด์) ต่อมไทรอยด์อักเสบหมายถึงสภาวะที่ทำให้ต่อมไทรอยด์บวม ทำให้ฮอร์โมนมากเกินไปหรือน้อยเกินไป

• ก้อนไทรอยด์เป็นก้อนเนื้อที่เกิดขึ้นบนต่อมไทรอยด์ สาเหตุมาจากการขาดวิตามิน K2 ก้อนไทรอยด์บางชนิดผลิตฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไปแต่ก้อนส่วนใหญ่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ก้อนเรียกอีกอย่างว่าเนื้องอกที่ไม่ร้ายแรง

• ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ (toxic adenoma) ก้อนไทรอยด์บางชนิดอาจเป็นมะเร็ง ก้อนเนื้อจะเป็นอันตรายหรือเป็นเนื้อร้ายหรือไม่นั้นพิจารณาจากอัลตราซาวนด์ หรือด้วยการตัดชิ้นเนื้อเนื้อเยื่อเพื่อทำการตรวจ

• เนื้องอกรังไข่หรืออัณฑะ

• มี T4 ในเลือดจำนวนมาก ระดับ T4 ที่สูงอาจเกิดจากการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบางชนิด หรือการใช้ยาเลโวไทรอกซีนจากฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป

อาการ

อาการบางอย่างของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอาจปรากฏชัดทางร่างกาย ในขณะที่อาการอื่นๆ อาจมีอาการเล็กน้อย และอาจสังเกตเห็นได้ยากในช่วงแรก บางครั้งภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นความวิตกกังวล

อาการและอาการแสดงของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน ได้แก่:

• น้ำหนักลดแต่มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น

• หัวใจเต้นเร็วหรือผิดปกติ

• รู้สึกประหม่าหรือหงุดหงิด

• รู้สึกเหนื่อยล้าแต่มีปัญหาในการนอนหลับ

• มือสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง

• เกิดความร้อนในร่างกายได้ง่าย

• ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง

ต่อมไทรอยด์เองสามารถบวมเป็นโรคคอพอกได้ ซึ่งอาจเป็นแบบสมมาตรหรือข้างเดียวก็ได้ คอพอกคือการขยายตัวของต่อม และมักมองเห็นเป็นป่องหรือบวมที่โคนคอ สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของโรคคอพอกคือการขาดสารไอโอดีน

คุณอาจพบว่าดวงตาโปน สิ่งนี้เป็นที่รู้จักในทางการแพทย์ว่า exophthalmos และมีความเกี่ยวข้องกับโรคที่เกี่ยวโยงกับระบบ ทางเดินอาหารบกพร่อง

โรคต่อมไทรอยด์ในระยะยาวและไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ผมเปราะและผมร่วงได้

หัวใจเต้นผิดปกติ หายใจลำบาก หรือหมดสติอาจเกิดขึ้นได้ในบางคนที่มีภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน อาการเหล่านี้ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ทันที

ภาวะแทรกซ้อน

ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของ:

• พายุไทรอยด์ (Thyroid storm) พายุไทรอยด์เป็นภาวะสุขภาพที่พบไม่บ่อยซึ่งเกิดขึ้นจากภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินที่ไม่ได้รับการรักษา ร่างกายของคุณเข้าสู่ภาวะโอเวอร์ไดรฟ์อันเป็นผลมาจากฮอร์โมนไทรอยด์ในระบบมากเกินไป พายุไทรอยด์เป็นอาการที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต รวมถึงอัตราการเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็ว ความดันโลหิตสูงและมีไข้

• ภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์และผู้ที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินในระหว่างตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ที่สูงอาจเป็นอันตรายต่อทั้งหญิงตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ ความเสี่ยงรวมถึงการแท้งบุตรและการคลอดก่อนกำหนด การทดสอบฮอร์โมนไทรอยด์เป็นประจำในระหว่างตั้งครรภ์สามารถตรวจพบความผิดปกติได้

• โรคกระดูกพรุน ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินอาจทำให้กระดูกของคุณอ่อนแอและบางลง ซึ่งอาจนำไปสู่โรคกระดูกพรุนได้ การเสริมวิตามินดีและแคลเซียมระหว่างและหลังการรักษาสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพกระดูกได้ การออกกำลังกายให้เพียงพอหรือออกกำลังกายในแต่ละวันยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนอีกด้วย

• มะเร็ง คนที่เป็นโรคต่อมไทรอยด์ทำงานเกินบางคนจะเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์

ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกินยังสามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจห้องบน ซึ่งเป็นภาวะที่เป็นอันตราย (การเต้นของหัวใจผิดปกติ) ที่อาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดสมองรวมถึงภาวะหัวใจล้มเหลว

การทดสอบเพื่อวินิจฉัยแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้เหล่านี้ประกอบด้วย:

• การทดสอบระดับ T4, FreeT4 และ T3 การทดสอบเหล่านี้จะวัดปริมาณไทรอยด์ฮอร์โมน (T4 และ T3) ในเลือดของคุณ

• การทดสอบระดับฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) TSH เป็นฮอร์โมนต่อมใต้สมองที่ช่วยกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้ผลิตฮอร์โมน เมื่อระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูง ต่อมใต้สมองของคุณจะตอบสนองโดยการลดการผลิต TSH

TSH ต่ำผิดปกติอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน

• การสแกนต่อมไทรอยด์ (การสแกนการดูดซึมไอโอดีนกัมมันตภาพรังสี) ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ดูว่าต่อมไทรอยด์ของคุณทำงานหนักเกินไปหรือไม่ โดยการวัดปริมาณไอโอดีนที่ต่อมไทรอยด์ “ดูดซับ” จากกระแสเลือดของคุณ แพทย์ของคุณจะให้ไอโอดีนเม็ดเล็กหรือของเหลวแก่คุณ จากนั้นคุณจะนอนอยู่บนโต๊ะขณะที่กล้องพิเศษจะถ่ายภาพต่อมไทรอยด์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสแกนต่อมไทรอยด์สามารถเปิดเผยได้ว่าต่อมทั้งหมดหรือเพียงบริเวณเดียวเป็นสาเหตุของปัญหา

• อัลตราซาวนด์ต่อมไทรอยด์ อัลตราซาวด์สามารถวัดขนาดของต่อมไทรอยด์ทั้งหมด รวมถึงมวลใดๆ บนหรือในต่อมไทรอยด์ (เช่น ก้อนเนื้อ) แพทย์ยังสามารถใช้อัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูว่าก้อนเนื้อแข็งหรือเป็นซีสต์หรือไม่

• การสแกน CT หรือ MRI การสแกน CT หรือ MRI สามารถแสดงว่ามีเนื้องอกในต่อมใต้สมองหรือไม่

แม้ว่าแพทย์ปฐมภูมิสามารถสั่งการทดสอบเหล่านี้ได้ แต่ควรไปพบแพทย์ต่อมไร้ท่อ แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อมีความเชี่ยวชาญในการรักษาและจัดการสภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน

วิธีการรักษาภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน

ต้องทราบสาเหตุของการเกิดแล้วแก้ที่สาเหตุนั้นๆ

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

Paa ease

Synbc

K cal

เกลือหิมาลัย

Glube