เป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อของมดลูก ซึ่งมักจะพบได้บ่อยในในวัยเจริญพันธุ์หรือผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป หรือ เนื้องอกในมดลูกเป็นชนิดที่ไม่อันตรายและมีโอกาสกลายเป็นมะเร็งได้น้อยมากและอาจจะมีขนาดเล็กมากไปจนถึงมีขนาดใหญ่เท่าลูกแตงโม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์หรือทำให้มีบุตรยากได้
สาเหตุเนื้องอกในมดลูก เท่าที่ทราบกันในปัจจุบันนี้
-ฮอร์โมนเพศหญิงที่เรียกว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป เป็นตัวเร่งให้เกิดการเจริญเติบโตของเซลล์ เมื่อเซลล์กล้ามเนื้อตอบสนองต่อการทำงานของฮอร์โมนผิดปกติ จึงมีการสร้างเซลล์ที่ผิดปกติไปด้วย
-การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิดจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มากเกินไปอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเพิ่ม หรือกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกในมดลูกได้
-การรับประทานอาหารที่มีเอสโตรเจนสูงเป็นประจำหรือเป็นระยะเวลานาน
- ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์ น้ำเต้าหู้ เต้าหู้
- น้ำมะพร้าว
- กระเจี๊ยบแดง
- กวาวเครือ
-ลูกพรุน
- องุ่น
- งา
-เมล็ดเฟล็กซ์
-จุลชีพฝั่งที่ไม่ดีจากลำไส้ เคลื่อนย้ายตัวไปยังช่องคลอดและก่อการอักเสบและก่อให้เป็นเนื้องอกได้
• คลำพบก้อนเนื้อที่ท้อง หรือบริเวณอุ้งเชิงกราน
• ปวดท้องประจำเดือนมากกว่าปกติ เพราะเนื้องอกไปเบียดโพรงมดลูก
• ปวดท้องแบบหน่วง ๆ ทั้งที่ไม่มีประจำเดือน
• มีเลือดออกมากระหว่างรอบเดือน มีลิ่มเลือดปนเป็นก้อน หรือประจำเดือนมานานกว่า 2 สัปดาห์
• ปัสสาวะบ่อยขึ้น เพราะเนื้องอกไปกดทับบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
• มีอาการท้องผูกผิดปกติ เพราะเนื้องอกไปกดทับบริเวณลำไส้
• รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
• เนื้องอกในกล้ามเนื้อ (Intramural fibroid) เป็นตำแหน่งที่พบบ่อย โดยจะพบภายในบริเวณกล้ามเนื้อมดลูก
• เนื้องอกที่ผิวด้านนอกมดลูก (Subserosal fibroid) เนื้องอกโตขึ้นจึงเกิดการดันออกมาที่ผิวด้านนอกของมดลูก
• เนื้องอกที่โพรงมดลูก (Submucosal fibroid) ก้อนเนื้องอกดันเข้าไปในโพรงมดลูก อาจทำให้โพรงมดลูกผิดรูปได้
การรักษาด้วยวิธีการทางธรรมชาติ
หยุดรับประทานอาหารที่เป็นเอสโตรเจน
หยุดการรับประทานยาคุมกำเนิด
หยุดรับประทานอาหารให้จุลชีพฝั่งเลวในลำไส้ (อ่านบทความตอน อาหารที่ควรอยู่ในลำไส้)
เพิ่มปริมาณ ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนตามธรรมชาติโดยการรับประทานเมล็ดฟักทอง 1 ฝ่ามือวันเว้นวัน
เพิ่มการรับประทานอาหารที่เป็นพรีไบโอติกและโพรไบโอติก เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาวไปจัดการกับก้อนเนื้องอก
Zyem
Synbc
Glube
K cal
Glap