หน้าแรก
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
แจ้งชำระเงิน
บทความ
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
หน้าแรก
>
บทความ
>
ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย
ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย
8 ปีที่ผ่านมา
โดย
เจ้าของร้าน
รายการ หมอนอกกะลา
ตอน ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย
( ยาวอีกแระ อ่านเถอะนะ ไม่ยากเท่าคนที่หาความรู้มา
ให้และพิมพ์จนเมื่อยนิ้วหรอ
ก เชื่อผม )
ในร่างกายของมนุษย์เรามีกลไ
กควบคุมความเป็นกรด-ด่างในก
ระแสเลือดให้อยู่ที่ประมาณ 7.4 เมื่อร่างกายมีสภาวะเป็นกรด
จะเกิดกลไกการละลายแคลเซียม
ออกจากระดูกเพื่อที่จะสะเทิ
นความเป็นกรด กลไกนี้เกิดขึ้นเพื่อที่จะพ
ยายามรักษาความเป็นด่างไว้ใ
ห้ร่างกาย แต่ถ้าร่างกายต้องอยู่ในสภา
พเป็นกรดนานๆ กลไกการควบคุมสมดุลก็จะสูญเ
สียไป ทำให้เกิดกรดสะสมในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของความเจ็บป
่วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการรับประ
ทานอาหารที่ไม่เหมาะสมเป็นเ
วลานานๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
ในเลือดจะมีค่าความเป็นกรด-
ด่าง (pH) ในช่วง 7.35-7.45 โดยจะมีสารหลายๆตัว ไม่ว่าจะเป็นเกลือแร่ (เช่น โซเดียม โปตัสเซียม แคลเซียม คลอไรด์ ฯลฯ) บัฟเฟอร์ (ได้แก่สารไบคาร์บอเนตทั้งห
ลาย) และสารอื่นๆ เช่น กรดอะมิโน อัลบูมิน และฮีโมโกลบิน ฯลฯ เป็นตัวสำคัญในการช่วยปรับส
มดุลกรด-ด่างในเลือดหากมีกา
รเปลี่ยนแปลง pH ในเลือดเพียงเล็กน้อย(ย้ำ เพียงเล็กน้อย) ก็จะมีผลต่อการทำงานและอากา
รที่ผิดปกติไปของร่างกาย เมื่อ pH ลดต่ำลงกว่า 7.35 ทางการแพทย์ก็จะถือว่า ร่างกายอยู่ในสภาวะกรด และถ้าสูงกว่า 7.45 ก็ จะอยู่ในสภาวะด่าง ซึ่งจะเห็นว่าความแตกต่างระ
หว่างสภาวะปกติ สภาวะกรด หรือสภาวะด่าง เป็นเพียงค่าเล็กน้อยเท่านั
้นสำหรับในเลือด จึงต้องมีการควบคุมอย่างเข้
มงวด มิฉะนั้นความผิดปกติทางร่าง
กายก็จะเกิดขึ้นตามมา
ร่างกายมนุษย์มีวิธีในการรั
กษาสมดุลกรด-ด่างอยู่หลายทา
ง เช่น ในระดับเซลล์จะใช้ปฏิกิริยา
ทางเคมีในการเพิ่มหรือลดควา
มเป็นกรด-ด่าง ในเลือดก็จะใช้สารต่างๆดังท
ี่กล่าวมาแล้วในการปรับสมดุ
ล และท้ายที่สุดก็คือการปรับร
ะดับการหายใจ เพื่อปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
จากปอด (H+ + HCO3- H2CO3- CO2 + H2O) รวมทั้งขับกรดต่างๆในร่างกา
ยออกจากไตทางปัสสาวะ เป็นต้น
อาหารที่เรารับประทานอยู่ทุ
กวันนี้ ส่งผลให้ร่างกายมีสภาวะเป็น
กรดมากขึ้น แม้แต่ปัสสาวะที่ขับออกมาจา
กร่างกายก็ยังมีความเป็นกรด
มากขึ้นอีกด้วย สาเหตุอีกประการหนึ่งก็คือ ความสามารถในการทำงานของไตล
ดลงเรื่อยๆ เมื่อเรามีอายุมากขึ้น ความสามารถของไตที่ลดลงหมาย
ถึงปริมาณเลือดที่มาเลี้ยงไ
ตลดลง ความสามารถในการกรองของเสีย
ลดลง และความสามารถในการขับกรดออ
กจากร่างกายก็ลดลงด้วย เมื่อ รวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน
ก็ยิ่งทำให้ปริมาณกรดสะสมอย
ู่ในร่างกายมากขึ้น ซึ่งสภาวะกรดที่สูงขึ้นนี้จ
ะส่งผลอะไรต่อร่างกายบ้าง ตามผมมา
"อายุยิ่งมาก เลือดก็ยิ่งมีกรดเพิ่มมากขึ
้น” ผลที่เกิดกับร่างกายนี้เป็น
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียก
กันว่า สภาวะกรดในระดับต่ำอย่างเรื
้อรัง (Chronic Low-Grade Metabolic Acidosis) ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายเป็
นกรดในระดับอ่อนๆ ซึ่งเราๆท่านๆ จะไม่ได้สังเกตอาการผิดปกติ
ใดๆในระยะเริ่มต้น แต่ถ้าทิ้งให้ร่างกายอยู่ใน
สภาพนี้นานๆ อาจทำให้เป็นโรคหรือมีอาการ
ต่างๆที่พบได้ ดังนี้ (ใครชอบอ่านวิจัยหาอ่านของ Yuen,2006 เอาเองนะ)
• โรคกระดูกพรุน
• โรคไตและกระเพาะปัสสาวะ รวมทั้งโอกาสเกิดนิ่ว
• อาการทางหัวใจและหลอดเลือด • เบาหวาน • โรคอ้วน
• ต่อมไธรอยด์ทำงานได้ไม่เต็ม
ที่• ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภ
าพลดลง
• ระบบต้านอนุมูลอิสระมีประสิ
ทธิภาพลดลง • มีสภาวะดื้อต่อฮอร์โมนเพื่อ
การเจริญเติบโต
• ปวดเมื่อยข้อและกล้ามเนื้อ•
มีอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
• โรคลมชักเรื้อรัง• เป็นโรคติดเชื้อจากเชื้อราไ
ด้ง่าย
ไต ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อขับแ
คลเซียมและแมกนีเซียมออกจาก
ร่างกายทางปัสสาวะในจำนวนมา
ก นอกจากนี้ ไตก็ยังสร้างสารต่างๆออกมาด
้วย เช่น สารไบคาร์บอเนต เพื่อช่วยในการปรับสมดุลกรด
-ด่างของร่างกายอีกทางหนึ่ง
เมื่อต้องทำงานหนักเป็นเวลา
นานๆ ไตก็จะเสื่อมลงเร็วกว่าเวลา
อันควร สมเหตุสมผลมั๊ย วิปัสสนาดูนะ
วงจรที่สุดแสนจะอันตรายต่อเ
ราๆท่านๆที่เกิดขึ้นนี้สามา
รถหยุดยั้งได้ เพียงแค่รู้ว่าควรรับประทาน
อาหารชนิดใด ในปริมาณที่เหมาะสมเพียงใด ก็สามารถที่จะแก้ปัญหาได้ที
่ต้นเหตุ แต่ก่อนที่จะทราบว่าควรรับป
ระทานอะไร เราก็ควรจะทราบเกี่ยวกับค่า
สำคัญสักเล็กน้อย ค่าที่สำคัญนี้คือ ค่าที่เรียกว่า
ปริมาณกรดที่มีต่อไต [Potential Renal Acid Load (PRAL)] เป็นค่าเฉพาะของอาหาร ซึ่งบ่งชี้ถึงปริมาณกรดที่จ
ะเกิดขึ้นกับไตหลังการบริโภ
คอาหารชนิดนั้นๆ (เพื่อความสะดวกในการเปรียบ
เทียบกับค่าอื่นๆ ค่าที่นำมานี้จะมีหน่วยเป็น
mEq ต่อปริมาณอาหาร 100 กรัม) เพื่อความง่ายต่อการปฏิบัติ
การทราบเพียงค่านี้ค่าเดียว
ก็เพียงพอแล้ว ค่า PRAL เป็นค่าที่เกิดจากผลรวมของโ
ปรตีนกับฟอสเฟต แล้วลบด้วยผลรวมของโปตัสเซี
ยม แมกนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งมีสูตรดังนี้
PRAL = [0.49 x โปรตีน (กรัม)] + [0.037 x ฟอสฟอรัส(กรัม)] – [0.021 x โปตัสเซียม (กรัม)] – [0.026 x แมกนีเซียม(กรัม)] – [0.013 x แคลเซียม (กรัม)]
การคำนวณได้ค่าบวกแสดงว่า จะก่อให้เกิดสภาวะกรดต่อร่า
งกาย ส่วนค่าลบจะก่อให้เกิดสภาวะ
ด่างต่อร่างกาย
และหลังจากที่ได้ทำการค้นคว
้ามานาน ก็มีแค่เพียงกลุ่มผัก-ผลไม้
เท่านั้น ที่จะให้ค่า PRAL เป็น ลบ ซึ่งหมายถึงทำให้ร่างกายเป็
นด่าง ส่วนกลุ่มที่เหลือไม่ว่าจะเ
ป็นกลุ่มเนื้อสัตว์ นม เนย ไข่ ธัญพืช เป็นต้น ล้วนแล้วแต่มีผลที่จะก่อให้
เกิดสภาวะกรดต่อร่างกายทั้ง
สิ้น
ทุกวันนี้เราต้องกินอาหารเป
็นประจำ วันละ 2-3 มื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอา
หารและพลังงานที่เพียงพอ แต่เชื่อหรือไม่ว่าอาหารที่
เรากินกันอยู่นั้นสามารถทำใ
ห้เราอ่อนล้าและหมดแรงได้ ผมแบ่งอาหารตามผลทางปฏิกิริ
ยาเคมีที่เกิดขึ้นหลังจากขบ
วนการย่อยครับ ซึ่งจะแบ่งได้เป็นได้เป็นอา
หารที่เป็นกรดต่อร่างกาย กับ อาหารที่เป็นด่างต่อร่างกาย
ซึ่งค่าความเป็นกรด-ด่างนั้
นไม่ได้วัดจากความเปรี้ยวหร
ือรสชาติของอาหารที่ลิ้นเรา
สัมผัสได้ แต่หมายถึง สิ่งที่หลงเหลืออยู่ขั้นสุด
ท้ายหลังจากขบวนการย่อย ยกตัวอย่างเช่น ผลไม้ซึ่งมีรสเปรี้ยวเช่น ส้ม มะนาว สับปะรด (เปรี้ยวนะ) เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้
ว หลังจากย่อยเสร็จสิ้นส่วนที
่เหลือจะมีค่าเป็นด่าง เราจึงจัดให้ผลไม้เหล่านี้อ
ยู่ในกลุ่มอาหารที่ทำให้ร่า
งกายเป็นด่าง ทั้งนี้เราจะจำแนกให้อาหารช
นิดนั้นอยู่ในจำพวกไหนขึ้นอ
ยู่กับผลสุดท้ายที่เกิดขึ้น
หลังจากอาหารเหล่านั้นผ่านข
บวนการย่อยเรียบร้อยแล้ว
ขบวนการต่างๆในร่างกาย ทั้งการหายใจ การย่อยอาหาร การไหลเวียนโลหิต การผลิตฮอร์โมน โดยทุกระบบจะทำงานประสานกัน
เพื่อควบคุมสมดุลกรด-ด่าง(p
H) ภายในร่างกาย เราสามารถทดสอบได้ง่ายๆว่าอ
าหารชนิดใดเป็นกรด หรือเป็นด่างได้ง่ายๆ โดยนำอาหารนั้นไปเผา(เปรียบ
ได้กับการเผาผลาญอาหารในร่า
งกาย) แล้วจึงนำขี้เถ้าที่เหลือจา
กการเผามาเติมน้ำ จากนั้นนำไปวัดค่า pH กลุ่มอาหารที่มีแคลเซียม โพทัสเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โซเดียม แมงกานีสในปริมาณสูง จะให้ค่า pH เป็นด่าง ในขณะทีอาหารที่ประกอบด้วยฟ
อสฟอรัสอาทิ โซดา น้ำอัดลม คลอรีน ซัลเฟอร์ ซิลิกอน ไอโอดีน ฟลูออไรด์สูงจะให้ค่า pH เป็นกรด
อาหารที่ดีต่อสุขภาพคืออาหา
รที่ทำให้เกิดของเสียที่มีค
่าเป็นกรดน้อยที่สุด หรือประกอบด้วยสารที่สามารถ
ลดความเป็นกรดได้ในปริมาณมา
ก อาหารที่ปรุงขายทั่วไป อาหารสำเร็จรูปที่ขายกันอยู
่ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ทำให้ร
่างกายเกิดสภาวะเป็นกรด และถ้าประกอบกับการบริโภคผั
ก-ผลไม้ในปริมาณน้อยด้วยแล้
วยิ่งทำให้ภาวะกรดในร่างกาย
มากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของความ
เจ็บปวดตามส่วนต่างๆของร่าง
กาย ตลอดจนโรคเรื้อรังต่างๆ
ภาวะที่ร่างกายเป็นกรดมากเก
ินไปจะส่งผลทำให้ปริมาณออกซ
ิเจนที่เซลล์ควรได้รับน้อยล
งไปด้วย เมื่อเซลล์ขาดออกซิเจนนานๆจ
ะก่อให้เกิดความผิดปกติในร่
างกายส่วนต่างๆ ทำให้ไม่สบาย ก่อให้เกิดความเสื่อม จนถึงการเกิดมะเร็ง (เซลล์ในร่างกายที่แข็งแรงจ
ะมีค่าเป็นด่างเล็กน้อย ในขณะที่เซลล์มะเร็งจะทำงาน
ได้ดีในสภาพที่มีค่าเป็นกรด
)
• เมื่อร่างกายมีภาวะเป็นด่าง
เซลล์ต่างๆจะแข็งแรงเนื่องจ
ากเซลล์จะได้รับสารอาหารที่
จำเป็นและออกซิเจนอย่างเพีย
งพอ
• เมื่อร่างกายมีภาวะเป็นกรด เซลล์จะอ่อนแอเนื่องจากขาดอ
อกซิเจนและสารอาหาร ทำให้เกิดการการคั่งของของเ
หลวและสารพิษรอบๆเซลล์ ทำให้เกิดภาวะความเจ็บปวดแล
ะโรคต่างๆ ซึ่งในภาวะดังกล่าวจะทำให้ร
่างกายเหนื่อยล้า และต้องการการพักผ่อน เพื่อสงวนพลังงานไว้ใช้สำหร
ับกำจัดสารพิษดังกล่าวออกจา
กร่างกาย เมื่อร่างกายกำจัดของเสียซึ
่งเป็นกรดออกจากร่างกายได้แ
ล้ว เซลล์จะมีค่าpHเป็นด่าง ทำให้การทำงานของเซลล์กลับส
ู่สภาพปกติ สามารถดูดซึมสารอาหารและแลก
เปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น
ร่างกายเราเปรียบเสมือนธนาค
าร สามารถสะสมสารอาหาร ตลอดจนแร่ธาตุไว้ใช้ เมื่อเรากินอาหารที่มีส่วนป
ระกอบของแร่ธาตุที่เป็นด่าง
ในปริมาณมากกว่าความต้องการ
ใช้ในขณะนั้น ร่างกายจะเก็บแร่ธาตุเหล่าน
ี้ไว้สำหรับใช้ต่อไป แต่เราๆ ท่าน ๆ ชอบเผาธนาคารโดยไม่รู้ตัว
อาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดภา
วะเป็นด่าง ได้แก่ ต้นงอก ผัก(โดยเฉพาะหน่อไม้ฝรั่ง วอเตอร์เครส แตงกวา ถั่ว ผักกาด ผักชีฝรั่ง เครื่องเทศ หัวหอม คึ่นฉ่าย แครอท) ผลไม้ (โดยเฉพาะ มะนาว ส้ม สับปะรด กีวี เชอรี่ สตรอเบอร์รี แตง แอปเปิ้ล แอพริคอท อโวคาโด) คีเฟอร์ โยเกิร์ต(วันละไม่เกิน 1 ช้อนโต๊ะ) ชาสมุนไพร นอกจากอาหารแล้วความคิดในแง
่บวก เช่น ความสุข สมหวังก็ทำให้ร่างกายมีค่าเ
ป็นด่างด้วย ผมเลยบอกให้ฟังเพลงที่ชอบ คราวนี้เข้าใจกันแล้วนะ
อาหารที่ทำให้ร่างกายเกิดภา
วะเป็นกรด ได้แก่ พวกแป้งและโปรตีน (พวกเนื้อสัตว์และแป้ง น้ำตาลขัดสี) ชา กาแฟ น้ำอัดลม สุรา เบียร์ เกลือ น้ำตาล อาหารสำเร็จรูป ผงชูรส และความเครียด ตลอดจนความคิดในแง่ลบ( โกรธ เกลียด ซึมเศร้า) ก็ส่งผลทำให้ร่างกายเกิดสภา
วะเป็นกรด
หมายเหตุ : เมล็ดธัญพืชทุกชนิด รวมถึงถั่ว ที่เป็นโปรตีน มีคุณสมบัติเป็นกรด ยกเว้นเมื่อนำมาปลูกเป็นต้น
งอก จะมีคุณสมบัติเป็นด่าง
มีวิธีการทดสอบสภาวะกรด-ด่า
งของเราอย่างไร? (Minich&Bland,2007) มี วิธีการตรวจที่ได้รับการยอม
รับกันทั่วไปในการทดสอบดูว่
า ในเวลานี้ร่างกายของเรามีสภ
าวะเป็นกรดหรือด่าง? และเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายๆ ไม่เจ็บตัว สะดวกเพราะทำได้เอง จะทำกี่ครั้งก็ได้แล้วแต่คว
ามสะดวก ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ตามที นั่นก็คือการวัดค่าความเป็น
กรด-ด่าง (pH) ของปัสสาวะด้วยกระดาษวัดค่า
กรด-ด่าง (Litmus Test) หาซื้อก็ไม่ยากนะ โดยกระดาษที่ใช้วัดเรียกว่า
กระดาษลิตมัส (Litmus Paper) ทำได้ง่ายๆโดยเก็บปัสสาวะใส
่ภาชนะแล้วจุ่มด้วยการดาษลิ
ตมัส ซึ่งกระดาษจะเปลี่ยนสีตาม pH ของปัสสาวะ เราสามารถทราบ pH ของ ปัสสาวะ โดยการเปรียบเทียบสีที่ได้ก
ับสีมาตรฐานที่มีมาให้ แค่นี้เราก็จะทราบสภาวะของร
่างกายว่า ณ เวลานั้นเป็นกรดหรือด่าง วิธีตรวจสอบนี้สามารถเห็นคว
ามแตกต่างในการวัดในเวลาตั้
งแต่ 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร ดังนั้นจึงควรมีกระดาษลิตมั
สติดไว้ที่บ้าน เราสามารถหาซื้อกระดาษลิตมั
สได้ตามร้านขายอุปกรณ์วิทยา
ศาสตร์ หรือร้านขายหนังสือเรียนก็น
่าจะมี ราคาก็ไม่แพง
ขอเพิ่มเติมถึงเรื่อง pH อีกนิดหนึ่ง เพื่อให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยจะ
ได้รู้จักกับค่า pH (หรือ Power of H+) ซึ่งคือค่าแสดงความเป็นกรด-
ด่าง และ pH ที่แสดงความเป็นกลางคือ 7 สูงกว่านั้นจะเป็นด่าง และต่ำกว่า 7 จะเป็นกรด ค่า pH ของปัสสาวะในคนปกติ ตามรายงานทางการแพทย์ จะอยู่ระหว่าง 4.5-8.0 ดังนั้นการที่จะทำให้ร่างกา
ยมีสภาวะด่าง ก็ควรจะอยู่ในช่วงที่ pH เกิน 7.0 แต่ไม่ควรเกิน 8.0 ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่เป็นค่
าปกติของปัสสาวะ ปัสสาวะที่มี pH เกินกว่า 8.0 แสดงถึงสภาวะด่างที่แสดงอาก
าร (Metabolic Alkalosis) เช่น หายใจลำบาก กระสับกระส่าย สับสน หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เป็นต้น
อีกเรื่องหนึ่งที่ควรทราบก็
คือ การศึกษาพบสภาวะที่ร่างกายม
ีความเป็นกรดในระดับที่แสดง
อาการ (Metabolic Acidosis) ปัสสาวะจะมี pH อยู่ในช่วง 5.0-5.5 ดังนั้นหากพบว่าปัสสาวะมี pH ต่ำกว่า 5.5 จึงไม่ดีแน่ แม้ว่าจะมีการระบุว่าปัสสาว
ะที่ปกติสามารถมี pH ได้ต่ำถึง 4.5 ก็ตาม และยังพบอีกด้วยว่า pH ที่ต่ำกว่า 6.5 เป็นต้นไป ร่างกายเริ่มต้องใช้ความเป็
นด่างจากแหล่งอื่น เช่น กระดูก หรือกล้ามเนื้อมาชดเชย เนื่องจากระบบการควบคุมกรด-
ด่างในเลือด เริ่มจะไม่เพียงพอที่จะควบค
ุมให้ pH อยู่ในระดับปกติได้
โดยสรุปแล้วควรควบคุมให้ pH ในปัสสาวะอยู่ในช่วง 7.0-8.0ช่วง pH ที่แนะนำขอแสดงตัวอย่างการใ
ช้วิธีทดสอบปัสสาวะนี้ให้ดู
ซักอัน การศึกษานี้ใช้ผักรวม ซึ่งเป็นส่วนผสมของแครอท ดอกกะหล่ำ และ บร็อคลี จำนวน 200 กรัมให้แก่อาสาสมัครจำนวน 5 คน แล้ววัดค่าความเป็นกรด-ด่าง
หลังอาหารเป็นเวลา 4 ชั่วโมง ปรากฏว่า pH ของปัสสาวะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยจ
าก 6.2 เป็น 6.91 (Nho&Jeffrey,2001) เริ่มอยากกินผักกันรึยังล่ะ
ประโยชน์ของการมีสภาวะร่างก
ายเป็นด่าง ทางการแพทย์รู้จักกันดี ในกระบวนการที่เรียกว่า Ion Trapping (Garrettson&Geller,1990) เป็นการทำให้ปัสสาวะมี pH มากกว่า 7.5 โดย การฉีดโซเดียมไบคาร์บอเนตเข
้าไปในกระแสเลือด ใช้สำหรับผู้ที่ได้รับพิษอย
่างเฉียบพลัน โดยจะช่วยให้ร่างกายสามารถข
ับสารแปลกปลอมออกมาได้ดีขึ้
น โดยอาศัยหลักที่ว่าปัสสาวะท
ี่เป็นด่างจะเป็นการป้องกัน
การดูดกลับของสารแปลก ปลอมโดยท่อไต (Renal Tubules) วิธีนี้ได้รับการเห็นชอบจาก
สถาบันพิษวิทยาทางคลีนิคของ
สหรัฐอเมริกา (American Academy of Clinical Toxicology) และพบว่าวิธีนี้สามารถเพิ่ม
การขับสารออกมาในปัสสาวะได้
มากขึ้น
โดย สรุปแล้วการรับประทานอาหารท
ี่เหมาะสม นอกจากจะทำให้ร่างกายหลีกเล
ี่ยงจากการเป็นโรคเรื้อรัง และอาการไม่พึงประสงค์ต่างๆ
แล้ว ยังทำให้ร่างกายสามารถขับสา
รที่ไม่ต้องการออกจากร่างกา
ยได้เร็วขึ้น ทำให้ร่างกายไม่มีสารตกค้าง
ที่เป็นอันตรายอีกด้วย และการกินอย่างเหมาะสมในกรณ
ีนี้ก็ไม่มีอะไรยากหรอกครับ
เพียงแค่ทานผัก-ผลไม้ที่ไม่
หวานให้มากขึ้นก็เท่านั้นเอ
ง ในกรณีที่รับประทานอาหารประ
เภทที่ทำให้ร่างกายเป็นกรดส
ูงติดต่อกันหลายครั้ง เช่น อาหารที่มีส่วนประกอบของชีส
หรือเนื้อสัตว์จำนวนมาก เช่น พิซซ่า เนื้อย่างเกาหลี ฯลฯ และมีการรับประทานผัก-ผลไม้
ไม่มากพอ หรือบางท่านที่ไม่ชอบทานผัก
-ผลไม้ สามารถรับประทานอาหารเสริมป
ระเภทที่มีโปตัสเซียม ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นด่างแทน
ได้
โปตัสเซียมอาหารส่วนใหญ่ที่
เรารับประทานในปัจจุบัน มีปริมาณโปตัสเซียมค่อนข้าง
ต่ำ Food and Nutrition Board of the Institute of Medicine และ Linus Pauling Institute ได้กำหนดปริมาณโปตัสเซียมที
่ควรได้รับอย่างเพียงพอในแต
่ละวัน (Adequate Intake เรียกย่อๆว่า AI) ไว้ที่ 4.7 กรัม โครงการ Dietary Approaches to Stop Hypertension (Ref 7) ก็ ได้แนะนำให้ร่างกายได้รับโป
ตัสเซียมในปริมาณเช่นเดียวก
ันนี้ เพื่อลดความดันโลหิต ป้องกันการเกิดนิ่ว และลดการสูญเสียมวลกระดูกลง
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ป่
วยโรคไต ความดันโลหิตสูง และหัวใจ ตลอดจนถึงผู้ที่ได้รับยาที่
มีผลต่อการเพิ่มปริมาณของโป
ตัสเซียมในร่างกาย ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีโ
ปตัสเซียมในปริมาณสูง เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อร่
างกายได้ อาการที่อาจพบได้คือ ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก กระสับกระส่าย สับสน หัวใจเต้นผิดปกติ มีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เป็นต้น ดังนั้นหากจะบริโภคโปตัสเซี
ยมในปริมาณที่แนะนำไว้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่าง
ใกล้ชิด
ดังนั้นเราสามารถช่วยกำจัดภ
าวะกรดดังกล่าวได้โดยรับประ
ทานอาหารที่ทำให้ร่างกายเกิ
ดสภาพเป็นด่าง(โดยเฉพาะพวกต
้นงอก ผลไม้รสเปรี้ยว) โดยสัดส่วนแล้วอาหารที่เราร
ับประทาน75-80% ควรเป็นอาหารที่ทำให้ร่างกา
ยเกิดสภาวะเป็นด่าง ดื่มน้ำเยอะๆ หายใจลึกๆยาวๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฟังเพลง ออกกำลังกาย แค่นี้เราก็ได้เป็นเพื่อนกั
นไปอีกนานแสนนาน
รักทุกคนครับ สวัสดี
Cr:ดร.สุมิตร มณีวรรณกุลPh.D. in Biology
Yuen,2006
Minich&Bland,2007
Nho&Jeffrey,2001
Garrettson&Geller,1990
American Academy of Clinical Toxicology
และอีกมากมายที่ผมได้อ่านมา
กรด ด่าง
,
กรด ด่าง ร่างกาย
,
santi manadee
,
สันติ มานะดี
,
กรดด่าง
Share
Share :
COPY
ค้นหาสินค้า
ค้นหา
ค้นหาโดยละเอียด
ดูทั้งหมด
หมวดหมู่สินค้า
สินค้าทั้งหมด
[63]
สินค้ามาใหม่
[0]
สินค้าแนะนำ
[13]
หมวดหมู่ตัวอย่าง
[0]
เสริมสุขภาพ
[48]
อาหารเสริมชนิดผง
[11]
อาหารเสริมชนิดเม็ด
[24]
ควบคุมน้ำหนัก
[0]
เสริมความงาม
[18]
อื่นๆ
[10]
สินค้าใหม่
ดูสินค้ามาใหม่ทั้งหมด
ระบบสมาชิก
คุณเป็นตัวแทนจำหน่าย
ระดับ{{userdata.dropship_level_name}}
ไปหน้าหลักตัวแทน
ระดับสมาชิกของคุณ ที่ร้านค้านี้
รายการสั่งซื้อของฉัน
ทั้งหมด {{(order_nums && order_nums.all)?'('+order_nums.all+')':''}}
รอการชำระเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment)?'('+order_nums.wait_payment+')':''}}
รอตรวจสอบยอดเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment_verify)?'('+order_nums.wait_payment_verify+')':''}}
รอจัดส่งสินค้า {{(order_nums && order_nums.wait_send)?'('+order_nums.wait_send+')':''}}
รอยืนยันได้รับสินค้า {{(order_nums && (order_nums.wait_receive || order_nums.wait_confirm))?'('+(order_nums.wait_receive+order_nums.wait_confirm)+')':''}}
รอตรวจสอบข้อร้องเรียน {{(order_nums && order_nums.dispute)?'('+order_nums.dispute+')':''}}
เรียบร้อยแล้ว {{(order_nums && order_nums.completed)?'('+order_nums.completed+')':''}}
ทั้งหมด {{(order_nums && order_nums.all)?'('+order_nums.all+')':''}}
รอการชำระเงิน {{(order_nums && order_nums.wait_payment)?'('+order_nums.wait_payment+')':''}}
รอตรวจสอบยอดเงิน{{(order_nums && order_nums.wait_payment_verify)?'('+order_nums.wait_payment_verify+')':''}}
รอจัดส่งสินค้า {{(order_nums && order_nums.wait_send)?'('+order_nums.wait_send+')':''}}
ส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว {{(order_nums && order_nums.sent)?'('+order_nums.sent+')':''}}
logout
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ยังไม่มีบัญชีเทพ
สร้างบัญชีใหม่
ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
ติดต่อเรา
0971654697
snailwhitebeauty
ติดตามสินค้า
ตรวจสอบพัสดุ
เว็บเพื่อนบ้าน
LnwShop
หน้าแรก
|
วิธีการสั่งซื้อสินค้า
|
แจ้งชำระเงิน
|
บทความ
|
เว็บบอร์ด
|
เกี่ยวกับเรา
|
ติดต่อเรา
|
ตะกร้าสินค้า
|
Site Map
Copyright © 2025
www.santimanadee.com
All rights reserved.
ตะกร้า
(
0
)
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ยังไม่มีบัญชีเทพ
สร้างบัญชีใหม่
ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
SANTI MANADEE
ไม่เอาภาระเข้าร่างกาย เอาสิ่งดี ๆ ใส่ให้กับร่างกาย คุณก็จะมีสุขภาพดี
เบอร์โทร :
0971654697
อีเมล :
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหา
หรือค้นหาอย่างละเอียด
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
{{pdata.name}}
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP
เลื่อนขึ้นบนสุด
คุณมีสินค้า
0
ชิ้นในตะกร้า
สั่งซื้อทันที
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
ดูสินค้าในตะกร้า
เริ่มการสั่งซื้อ
➜
เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม
พูดคุย-สอบถาม
โทร 0971654697
Add snailwhitebeauty