BELIEVE THE TRUTH
ตอน...ว่านหางจระเข้กับโรคสะเก็ดเงิน
นี่คืองานวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของว่านหางจระเข้สำหรับแผลสะเก็ดเงินและเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ยาทาอื่น ๆ ที่ทำให้ผิวหนังแข็ง การศึกษาในมหาวิทยาลัย (1) พบว่าเจลของว่านหางจระเข้มีอัตราประสิทธิผล 81 เปอร์เซ็นต์สำหรับการแก้ไขอาการของโรคสะเก็ดเงิน
ว่านหางจระเข้: ถูกใช้มานานเพื่อรักษาสภาพผิว
ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่เขตร้อนชื้นของโลกและมีการใช้มานานนับพันปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพผิวเช่นแผลไหม้ ผดผื่นและบาดแผล (2)
เปลือกแข็ง : มีไว้เพื่อป้องกัน
Sap ชั้นที่มียางขม : ช่วยปกป้องพืชจากสัตว์
Mucilage (เจล) : ส่วนด้านในของใบ
..เจลด้านใน..
เป็นเจลที่มีส่วนประกอบของยารักษาโรครวมถึงกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการแต่ไม่สามารถผลิตได้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ กรดไขมัน วิตามิน เกลือแร่และสารประกอบที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก บางทีสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาบาดแผลนั้นเกิดจากความจริงที่ว่า...ว่านหางจระเข้คือยาปฏิชีวนะ ต่อต้านไวรัส ต่อต้านแบคทีเรีย ต่อต้านเชื้อราและนั่นเป็นเพียงรายการสั้น ๆ
เนื่องจากว่าเจลเป็นตัวปรับสภาพ : ว่านหางจระเข้จึงมีสเตอรอล(sterols)จากพืชและสารประกอบฟีนอลอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายของคุณสามารถรับมือกับความเครียดไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย อารมณ์และสิ่งแวดล้อม
..ใช้ว่านหางจระเข้สำหรับโรคสะเก็ดเงินและปัญหาผิวอื่น ๆ..
ส่วนหนึ่งของความรู้สึกไม่สบายจากโรคสะเก็ดเงินคือผิวแตกซึ่งเจ็บปวด คัน แต่การทบทวนผลการศึกษาหลายฉบับในปี 2015 ได้แสดงให้เห็นว่าว่านหางจระเข้มีประโยชน์ต่อความเจ็บปวดอันแสนจะทรมานนี้และสภาพผิวอื่น ๆ ก็เช่นกัน :
-สมานแผล : คุณสมบัติของสารประกอบที่เรียกว่า glucomannan ช่วยเร่งการรักษาบาดแผลและการเจริญเติบโตของเซลล์ผิว
-ความชุ่มชื่นของผิว : ทำให้ผิวที่ระคายเคืองชุ่มชื่นและรู้สึกดีขึ้นเสมอ การศึกษา (3) แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพแม้ว่าจะใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
-ลดการอักเสบ : การศึกษาในปี 2008 (4) ขณะที่ไม่เน้นเฉพาะบทบาทของว่านหางจระเข้ต่อการรักษาโรคสะเก็ดเงิน พบว่าเจลมีประสิทธิภาพมากกว่ายาหลอก (placebo) ในการรักษาสภาพผิวรวมถึงภาวะเม็ดเลือดแดงที่เสียหายอันเกิดจากรังสี UV หรือผิวหนังแดงเนื่องจากการขยายหลอดเลือด
-การผลิตคอลลาเจน – การศึกษาแสดงให้เห็นว่าว่านหางจระเข้ช่วยให้ผิวของคุณกระชับและยืดหยุ่นขึ้นโดยการเพิ่มคอลลาเจน
Medical News Today (5) ตั้งข้อสังเกตว่าในขณะที่คุณสามารถซื้อเจลว่านหางจระเข้ได้ในร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพและร้านขายยาส่วนใหญ่ มันทำได้ง่ายแต่ประสิทธิภาพไม่เหมือนกับที่คุณปลูกไว้ใช้เอง หากคุณปลูกและปล่อยให้พวกเขาเจริญเติบโตด้วยตัวของคุณเอง คุณก็จะมีว่านหางจระเข้ที่สดอยู่เสมอและใช้งานได้ทันที เพียงแค่ปอกเปลือกออกแล้วใช้เจลด้านในสัมผัสโดยตรงกับบริเวณผิวที่ได้รับผลกระทบสามครั้งต่อวัน
..ข้อสังเกต..
หากคุณกำลังมองหาครีมว่านหางจระเข้....ผู้เชี่ยวชาญบางคนอาจแนะนำว่าควรมีว่านหางจระเข้เป็นส่วนผสมแค่ร้อยละ 0.5 แต่ถ้าใช้เจลจริง ๆจากต้นสด ๆ คุณจะได้รับประโยชน์โดยไม่มีปัญหาใด ๆ
..ทำไมใครบางคนจึงแนะนำให้ใช้แค่ความเข้มข้นเพียงเล็กน้อย....
พวกเขาอาจกล่าวว่า..ว่านหางจระเข้เป็นเรื่องลึกลับและทำได้ยากที่จะได้ส่วนผสมตามธรรมชาติให้กับครีมโดยเฉพาะอย่างยิ่งครีมที่มีราคาแพง
..!!นั่นเป็นประโยชน์สำหรับผู้ขายเท่านั้น...ไม่ใช่ผู้ซื้อ…!!
..ข้อควรระวังเกี่ยวกับว่านหางจระเข้..
มีรายงานว่าว่านหางจระเข้แคปซูลหรืออัดเม็ดอาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากผลข้างเคียงเช่นอาการท้องร่วง ปวดท้องหรือตะคริวและความเสียหายของตับ AloePlant.info (6) เตือนว่า.. นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดหรือเกิดข้อบกพร่องสำหรับมารดาที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรและอาจมีผลต่อเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีหรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับหรือผู้ที่กำลังเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัด
และตาม Healthline : บางคนค่อนข้างแพ้ ต่อว่านหางจระเข้
"คุณควรทำการทดสอบบนผิวบริเวณด้านใต้ของแขนและรอดูว่าคุณมีปฏิกิริยาเชิงลบใด ๆ หรือไม่ก่อนที่จะใช้ว่านหางจระเข้เพื่อรักษาโรคสะเก็ดเงินของคุณ..ว่านหางจระเข้ปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีโรคสะเก็ดเงิน... ยกเว้นคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
หากคุณพบปฏิกิริยาแพ้ต่อว่านหางจระเข้...ให้เลิกใช้ทันที บางคนอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ต่อว่านหางจระเข้มากกว่าคนอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงผู้ที่แพ้ต่อพืชในตระกูล Liliaceae (กระเทียม หัวหอมและทิวลิป) "(7)
นอกเหนือจากการใช้ว่านหางจระเข้เป็นวิธีรักษาตามธรรมชาติสำหรับโรคสะเก็ดเงินแล้ว สิ่งสำคัญที่คุณต้องตรวจสอบคืออาหารของคุณ..ว่าอาหารที่คุณกินเข้าไปจะทำให้ระดับ pH (ค่าความเป็นกรด-ด่าง)ของร่างกายของคุณเป็นด่างหรือไม่ เพราะความเป็นด่างสามารถช่วยในการบรรเทาอาการของสภาพผิวนี้ได้ การจัดการความเป็นกรดในร่างกายของคุณสามารถทำให้สมดุลโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและการดื่มของคุณและอาจมีผลดีต่อสุขภาพของผิวของคุณ "(8)
การศึกษาอื่นๆแสดงให้เห็นว่าการใช้ว่านหางจระเข้ร่วมกับน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอกอาจเป็นแนวทางที่ดีในการรักษาโรคสะเก็ดเงินเนื่องจากน้ำมันมะพร้าวเป็นทั้งสารต้านเชื้อแบคทีเรียและสารต้านการอักเสบเช่นเดียวกับที่ทำให้ผิวนุ่มนวล (9)
ในอีกแง่หนี่ง..น้ำมันจากว่านหางจระเข้สามารถใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยและอาจมีประโยชน์ในฐานะที่เป็นน้ำมันนวดเพื่อลดอาการปวดและการอักเสบรวมทั้งการบำบัดด้วยกลิ่นหอมและการดูแลรักษาผิวพรรณอื่น ๆ และยังมีหลักฐานอีกว่าเมื่อรวมกับแตงกวาอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดจากอาการของโรคเบาหวาน
และนั่นอาจเป็นโพสต์ต่อไปเพราะต้องไปหางานวิจัยอ่านก่อนนะจ๊ะ
ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง
สวัสดี
อ้างอิง:
1 Phytother Res. 2012 Apr;26(4):617-9
2 Disabled World 2004-2017
3 Pharmacogn Mag. 2014 Apr-Jun; 10 (Suppl 2): S392–S403
4 Skin Pharmacol Physiol. 2008;21(2):106-10
5 Medical News Today November 19, 2017
6 AloePlant.info January 2, 2014
7 Healthline July 6, 2017
8 StyleCraze October 4, 2017
9 Dermatitis. 2008 Nov-Dec;19(6):308-15