ตอน ผักชีลาว (Dill)

7 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

BELIEVE THE TRUTH

ตอน ผักชีลาว (Dill)

เช่นเดียวกับพืชอีกหลายชนิดหรือพืชที่เป็นยาอื่น ๆ .....ผักชีลาว...มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนโดยเฉพาะตอนใต้ของรัสเซียและแอฟริกาตะวันตกและมันถูกจัดอยู่ในตระกูลแครอท ผักชีลาวมีกลิ่นที่หอมทั้งจากการสูดดมทางจมูกและกลิ่นหอมอบอวลแม้ตอนเคี้ยวในปากและเป็นพืชที่ปลูกง่ายไม่ว่าจะปลูกในแปลงผักหรือในฐานะพืชประดับเพราะพวกเขาสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งในแสงที่จ้าหรือแม้กระทั่งแสงที่รำไร

ผักชีลาวเป็นหนึ่งในสมุนไพรโบราณของพระคัมภีร์ไบเบิลและได้รับการกล่าวถึงในต้นฉบับของอียิปต์โบราณอายุ 5,000 ปีเกี่ยวกับการใช้ในฐานะเป็นยา เพียงหนึ่งช้อนชาในน้ำเดือดหนึ่งแก้ว ถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการ colic (โคลิค)ในทารกเพื่อทำให้ระบบประสาทสงบลง ช่วยลดอาการจุกเสียด ช่วยบรรเทาความเมื่อยล้าและส่งเสริมการนอนหลับ การเคี้ยวเมล็ดผักชีลาวทำให้ลมหายใจสดชื่น บรรเทาอาการปวดประจำเดือนและเพิ่มการไหลเวียนของน้ำนมในมารดาที่ให้นมบุตร

การบริโภคเพียง 30 กรัมคุณจะได้รับคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าสิ่งอื่นที่คุณต้องการกินได้ตลอดทั้งวันซึ่งจะให้วิตามิน A ถึงร้อยละ 43 ที่คุณต้องการในหนึ่งวันและร้อยละ 40 ของปริมาณวิตามินซีที่แนะนำต่อวัน นอกจากนี้คุณยังได้รับแมงกานีสร้อยละ 18 ร้อยละ 11 ของโฟเลตและร้อยละ 10 ของธาตุเหล็ก

แคลเซียมในผักชีลาวน่าประทับใจมาก: หนึ่งช้อนโต๊ะของเมล็ดผักชีลาวมีแคลเซียมมากกว่าหนึ่งในสามถ้วยของนม นอกจากนี้ยังมีสารอาหารอื่น ๆ เช่นเส้นใย ไนอาซิน ฟอสฟอรัส ทองแดง riboflavin วิตามินบี 6 แมกนีเซียมและโพแทสเซียม แต่สารประกอบที่เข้มข้นมากขึ้นและมีประโยชน์ต่อร่างกายคือสองชนิดของ flavonoid รวมถึงkaempferol และ vicenin กับ monoterpenes carvone, limonene และ anethofuran

หนึ่งในคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของผักชีลาวคือน้ำมันของมันช่วยสกัดกั้นแบคทีเรียและยังช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เอนไซม์ที่ชี่อว่า glutathione-S-transferase ช่วยยึดโมเลกุลของกลูตาไธโอนต่อโมเลกุลที่ก่ออนุมูลอิสระเพื่อป้องกันความเสียหายและทำให้พวกเขากลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

น้ำมันหอมระเหยของเมล็ดผักชีลาวได้รับการพิจารณาว่าเป็น "สารเคมีบำบัด" และช่วยต่อต้านสารก่อมะเร็งที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในชีวิตประจำวันเช่นควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศและไอเสียจากรถยนต์
Monoterpenes สามตัวคือ – Anethofuran,carvone และ limonene - มีผลจากการศึกษาในน้ำมันจากผักชีฝรั่งว่า สารประกอบเหล่านี้ทำให้เกิดเอนไซม์ในการกำจัดของเสียในร่างกายที่ชื่อว่า glutathione S-transferase ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดเอ็นไซม์ในปริมาณสูง (1)

น้ำมันสกัดจากเมล็ดผักชีลาวถูกตรวจสอบในงานวิจัยชิ้นหนึ่งว่ามีศักยภาพในการต้านเชื้อราและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของร่างกาย นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าฤทธิ์ต้านเชื้อราของน้ำมันจากเมล็ดผักชีลาวเป็นผลมาจากความสามารถในการทำลายอุปสรรคตั้งแต่การซึมผ่านของเยื่อหุ้มเซลล์และจากการทำงานที่ผิดปกติของไมโตคอนเดรียในการก่อให้เกิดการสะสม ROS ของ A. flavus (2)

!!! ง่าย ๆ !!

ไม่เพียงแต่ใช้ในครัวเท่านั้น...ผักชีลาวมีทุกคุณสมบัติที่น่าอัศจรรย์ ชาวอียิปต์ใช้มันสำหรับทุกอย่างตามที่กล่าวมาแล้วด้านบน

ผักชีลาวเป็นสมุนไพรที่ปลูกง่าย คุณอาจปลูกมันในกระถางและวางไว้ในร่มหรืออาจปลูกในแปลงผักสมุนไพรกลางแจ้งคุณก็จะได้รับผลประโยชน์จากมันไม่ว่าจะเป็นทางสายตาหรือการบริโภคเพื่อประโยชน์ต่อร่างกาย
............
จะรออะไร..ถ้าปลูกไม่ได้ก็ไปหาซื้อมากินกันนะ
..............

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

สวัสดี

1 http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/1438594, Anethofuran, carvone, and limonene: potential cancer chemopreventive agents from dill weed oil and caraway oil, Jan. 2013

2 http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/22272289, The mechanism of antifungal action of essential oil from dill (Anethum graveolens L.) on Aspergillus flavus, Jan. 2013

คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

http://foodfacts.mercola.com/dill.html
http://nutritiondata.self.com/facts/spices-and-herbs/214/2
http://biology.about.com/od/cellanatomy/ss/mitochondria.htm
http://www.aspergillusflavus.org/
http://www.whfoods.com/genpage.php?tname=foodspice&dbid=71#howtouse
http://www.extension.umn.edu/garden/yard-garden/vegetables/dill/
http://rockportherbies.blogspot.com/2010/02/dill-anethum-graveolens-2010-herb-of.html
http://www.gardenguides.com/455-dill-anethum-graveolens.html