เมื่อครูแมว Thapanee RatanaBirabongse ซึ่งเป็นที่รักของใครหลายคนบ่น

7 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

รายการ หมอนอกกะลา

ตอน....เมื่อครูแมว Thapanee RatanaBirabongse ซึ่งเป็นที่รักของใครหลายคนบ่น

“ หมอ ๆ ทำไมเด็กเดี๋ยวนี้สอนยากจัง เขาเบลอ ๆ มึน ๆ ดูไม่สดชื่นเหมือนแต่ก่อน”

!!!! และนี่คือคำตอบ..สำหรับ..ครูแมวที่น่ารัก

น้ำตาล...เมื่อคุณเอาเข้าปากแล้วกลืน มันจะทำให้คุณโง่และมึน ๆ งง ๆ

งานวิจัยที่น่าสนใจแสดงให้เห็นว่าสมองของคุณมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงของเซลล์จากเนื้อเยื่อชนิดหนึ่งไปเป็นเซลล์ชนิดจำเพาะของเนื้อเยื่อชนิดอื่นซึ่งคุณสามารถควบคุมผ่านทางอาหารและการดำเนินชีวิตของคุณ แต่น่าเสียดายที่คนไทยได้รับการล้างสมองโดยอุตสาหกรรมอาหารและผู้ค้าที่หวังผลประโยชน์ให้เชื่อว่าน้ำตาลเป็น "สารอาหาร" ที่ดีต่อสุขภาพ

ชิ้นเล็ก ๆ ของผลไม้หรือแม้กระทั่งไอศครีมจะไม่ทำให้คุณเดือดร้อนมากเกินไป ...จริงหรือ!!

การพูดคุยเกี่ยวกับการบริโภคน้ำตาลส่วนใหญ่จะเป็นโรคอ้วนและเบาหวานซึ่งมันมีส่วนร่วมที่สำคัญ แต่นี่เป็นเรื่องที่ไกลกว่านั้น!! เมื่อคุณกินน้ำตาลมากเกินไป มันจะนำไปสู่ความไม่สมดุลอย่างรุนแรงในร่างกายของคุณรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ที่มีผลกระทบอย่างที่คุณไม่เคยคาดคิดว่ามันจะหนักหนาสาหัสต่อสุขภาพของคุณได้

!!! การกินน้ำตาลที่มากเกินไปเป็นอันตรายต่อสมองของคุณ

โรคอ้วน โรคเบาหวานประเภท 2 และแม้กระทั่งโรคหัวใจมักเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเกิดจากอาหารที่มีน้ำตาลส่วนเกิน (รวมถึงฟรักโตสในผลไม้หรือน้ำเชื่อมข้าวโพด)...แต่ปัญหาทางสมอง!!! สิ่งนี้มีการเชื่อมโยงอย่างยิ่งยวดกับการกินน้ำตาลที่คนไทยจำนวนมากไม่เคยรับรู้

การศึกษาในหนูที่ตีพิมพ์ในวารสาร Neuroscience เปิดเผยว่าน้ำตาลสูงในอาหารนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของแบคทีเรียในลำไส้และส่งผลที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสียที่สำคัญของความยืดหยุ่นทางปัญญาซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถของสมองของคุณเพื่อปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ (2)

ความบกพร่องทั้งในระยะยาวและความจำระยะสั้นก็สามารถสังเกตเห็นได้ (3) หลังจากสี่สัปดาห์ของการบริโภคน้ำตาลในปริมาณที่มาก...หนูแสดงออกถึงความเสื่อมที่หลากหลายในการทดสอบที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของร่างกายและจิตใจเมื่อเทียบกับหนูที่กินอาหารปกติ
นอกจากนี้การวิเคราะห์จุลชีพในหนูพบว่าความไม่สมดุลของแบคทีเรียในหนูที่ได้รับน้ำตาลสูงมีความสัมพันธ์โดยตรงกับประสิทธิภาพที่ต่ำลงของพวกเขาเกี่ยวกับการทดสอบความรู้ความเข้าใจ

Kathy Magnusson อาจารย์ใน OSU College of Veterinary Medicine and principal investigator with the Linus Pauling Institute กล่าวใน Oregon State University news: (4)

"มันชัดเจนมากขึ้นว่าแบคทีเรียในลำไส้ของเราหรือ microbiota สามารถสื่อสารกับสมองของมนุษย์ ... แบคทีเรียสามารถปล่อยสารที่ทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นประสาท สร้างความเครียดหรือระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพของการทำงานตามปกติ ...

!! เราไม่แน่ใจว่าข้อความอะไรถูกส่งไป แต่เราจะติดตามวิถีและผลกระทบ "

น้ำตาลมากเกินไปทำให้คุณโง่ ...แถมงี่เง่า
นี่ไม่ได้เป็นครั้งแรกที่น้ำตาลได้รับการเชื่อมโยงกับการลดลงในการทำงานของสมอง..........
ในปี 2012 นักวิจัยได้ทำการตรวจสอบผลกระทบของน้ำเชื่อมฟรักโทสสูงที่คล้ายกับน้ำเชื่อมข้าวโพด ซึ่งเป็นสารให้ความหวานราคาถูกที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทรายถึง 6 เท่าและมักจะใช้ในเครื่องดื่ม อาหารแปรรูป เครื่องปรุงรสและแม้กระทั่งอาหารสำหรับทารกบางชนิด

ทีมงานพยายามที่จะศึกษาผลของการบริโภคอาหารแปรรูปหลายขั้นตอนและมีความเข้มข้นของฟรักโตสที่สูง พวกเขาเลี้ยงหนูด้วยฟรักโตสเป็นเวลาหกสัปดาห์แล้วทดสอบความสามารถในการจำทางของพวกหนู (5)

หนูที่ถูกเลี้ยงด้วยน้ำเชื่อมฟรักโตสแสดงให้เห็นการด้อยค่าอย่างมีนัยสำคัญในองค์ความรู้ ความสามารถที่จะจำทางเพื่อออกจากเขาวงกต พวกเขาช้าลงและสมองของพวกเขาแสดงให้เห็นถึงการลดลงในกิจกรรมของเซลล์สมอง สมองพวกเขามีปัญหาในการส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ ซึ่งไปกระทบกับความสามารถ ความคิดที่ชัดเจนและจดจำเส้นทางที่พวกเขาเคยเรียนรู้และฝึกจนคล่องแคล่วเป็นเวลาหกสัปดาห์ก่อนหน้านี้

นอกจากนี้หนูที่ถูกเลี้ยงด้วยฟรักโตสยังมีสัญญาณของความต้านทานต่ออินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของกิจกรรมในสมองของคุณ เนื่องจากอินซูลินสามารถผ่านระบบคัดกรองเลือดในสมองของคุณมันจึงสามารถก่อกวนกระบวนการทางระบบประสาทที่มีความสำคัญสำหรับการเรียนรู้และความจำ

การบริโภคฟรักโตสจำนวนมากอาจปิดกั้นความสามารถของอินซูลินในการควบคุมวิธีการที่เซลล์สมองของคุณจัดเก็บและใช้น้ำตาลสำหรับพลังงานที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นความคิดและอารมณ์(6)

ในกรณีนี้ - กลุ่มที่สองของหนูได้รับไขมันโอเมก้า 3 ในรูปแบบของน้ำมัน flaxseed และ DHA ( docosahexaenoic acid ) เพิ่มไปจากอาหารฟรักโตสสูง หลังจากหกสัปดาห์ผ่านไปกลุ่มของหนูนี้ก็สามารถที่จะเดินออกจากเขาวงกตที่ดีกว่าและเร็วกว่าหนูในที่ไม่ใช้ DHA

นักวิจัยสรุปว่า DHA เป็นตัวป้องกันผลกระทบที่เป็นอันตรายจากฟรักโตสในสมองของคุณ ดีเอชเอเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงาน มันจะช่วยให้เซลล์สมองของคุณส่งสัญญาณไปยังอีกเซลล์หนึ่งซึ่งเป็นกลไกที่ทำให้การเรียนรู้และความจำเป็นเยี่ยม

ร่างกายของคุณไม่สามารถผลิต DHA ได้อย่างเพียงพอดังนั้นจึงต้องได้รับการเสริมผ่านทางอาหารของคุณได้ในอาหารทะเลน้ำลึก กุ้งเคย มันกุ้งหรืออาหารเสริม

!!! ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่า 'ปกติ' เชื่อมโยงกับการสูญเสียความทรงจำ

โปรดจำวิธีการที่หนูได้รับฟรักโตสแล้วส่งสัญญาณของความต้านทานต่ออินซูลินซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในผลกระทบเชิงลบต่อสุขภาพของสมอง แม้ว่าคุณจะไม่ได้มีโรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือค่าน้ำตาลในเลือดสูงแต่ยังไม่เป็นโรคเบาหวาน
..ระดับน้ำตาลในเลือดสูง-ปรากฏว่าจะมีอิทธิพลเชิงลบเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจ

การศึกษาหนึ่งในคนอายุเฉลี่ย 63ปี ที่ไม่เป็นโรคเบาหวานแต่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าอีกกลุ่ม พบว่าคะแนนในการทดสอบหน่วยความจำต่ำกว่า(7)
ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นยังมีปริมาณ hippocampus ที่ลดลง-สมองที่เชื่อมโยงกับหน่วยความจำ ผู้เขียนของการศึกษากล่าวว่า:

"ในทางการแพทย์แม้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดของคุณจะ 'ปกติ' แต่ระดับน้ำตาลในเลือดที่น้อยกว่าจะดีสำหรับสมองของคุณในระยะยาวมากกว่าในเรื่องเกี่ยวกับการทำงานของหน่วยความจำเช่นเดียวกับหน่วยความจำที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของสมองเช่น hippocampus อีกด้วย
!!! น้ำตาลทำลายสุขภาพลำไส้ของคุณซึ่งในทางกลับกันทำลายสมองของคุณ ...

ย้อนกลับไปยังโพสต์ที่ผ่าน ๆ มา.. ความบกพร่องของความทรงจำถูกเชื่อมโยงโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงในลำไส้ของ microbiota ที่เกิดจากการบริโภคน้ำตาลส่วนเกิน นี่ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเนื่องจากลำไส้ของคุณซึ่งจะเต็มไปด้วยจุลินทรีย์ที่มีชีวิตยังสื่อสารกับสมองของคุณผ่านสิ่งที่เรียกว่า " gut-brain axis " ที่ฝังอยู่ในผนังลำไส้ของคุณซึ่งเป็นระบบประสาทของลำไส้ (ENS ) ที่ทำงานเป็นอิสระและเกี่ยวเนื่องกับสมองของคุณ (9)

วิธีการรักษาลำไส้ของคุณ (และสมอง) ให้มีสุขภาพที่ดี

ลำไส้ที่มีสุขภาพดีเป็นกุญแจสำคัญในการทำงานของสมองที่ดี

หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญคือ กำจัดน้ำตาลส่วนเกินรวมทั้งฟรักโตสจากทุกแหล่งออกจากชีวิต ไม่มีคำถามในใจของผมเลยว่า คนที่กินประจำ กินมานานของฟรักโตสมากกว่า 25 กรัมต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมรวมทั้งโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้นคุณจะต้องจำกัดการบริโภคของคุณเพื่อสมองที่ดีของคุณและนี่ไม่รวมน้ำหนักเกิน เป็นโรคเบาหวาน คอเลสเตอรอลสูงและความดันโลหิตสูง

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

สวัสดี

ขอบคุณ
Neuroscience August 6, 2015
Huffington Post June 23, 2015
1 Johnson RJ and Gower T. (2009) The Sugar Fix: The High-Fructose Fallout That is Making You Sick and Fat, Pocket, 416 pp
2 Neuroscience August 6, 2015
3, 4 Oregon State University June 22, 2015
5 J Physiol. 2012 May 1;590(Pt 10):2485-99.
6 Science Daily May 15, 2012
7 Neurology October 23, 2013
และ Dr.Joseph Mercola