รายการ หมอนอกกะลา
ตอน กรณีศึกษา...มือสั่น
ความสุขรออยู่ที่บ้านผมเสมอครับ..หลังจากกลับมาประเทศไทย มาถึงบ้านก็ไม่ได้พักผ่อนครับ คิวยาวเหยียด แต่ที่มีความสุขที่สุดคือ อาการมือสั่นชนิดเหมือนเจ้าเข้าของน้องเค้าหายไปราว 90 % ครับกับการบำบัด 14 วัน
ความเดิม..
มีผู้ป่วยที่หายจากไมเกรนเรื้อรัง ไปเจอน้องคนนี้เข้าแล้วเห็นว่าเค้ามือสั่นมากเลยพามาหาที่บ้านครับ ก็ซักประวัติครับ และสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดคือเลือดเคยออกตามไรผม คล้าย ๆ เหงื่อเป็นเลือดนั่นแหละครับคำถามแรกที่ผมถามคือ...
“คุณต้องเก็บความลับชนิดที่บอกใครไม่ได้มากมายขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
คำตอบคือ “ครับ หมอรู้ได้อย่างไรเหรอครับ”
ผมอมยิ้มแล้วบอกว่า “คุณแค่บริหารความเครียดผิดวิธี แล้วได้..เมทาบอลิคซินโดรม..มาก็แค่นั้นเองครับ”
ผมมีผู้มาขอคำปรึกษาด้วยอาการเหล่านี้มากพอสมควรครับ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ต้องรับรู้สิ่งที่คนอื่นระบายความทุกข์ให้ฟัง แล้วขอร้องว่า อย่าบอกใคร หรือเป็นที่ไว้ใจของเจ้านาย แล้วเจ้านายระบายความลับที่ตัวเองต้องเก็บไว้ แต่ไม่อยากเก็บไว้เองให้ฟัง หรือ เป็นที่ปรึกษาด้านครอบครัวที่มีการแตกแยกและ สามีก็ไว้ใจ ภรรยาก็ไว้ใจคนกลางคนนี้ ก็รุมระบายให้ฟังแล้วห้ามบอกอีกฝ่ายอย่างนี้เป็นต้น
เมื่อรับฟังมาก ๆ ก็รู้สึกเครียด ฮอร์โมน อะดรินาลีน จึงสูง จากนั้นก็ เอาเหล้า เบียร์ มาผ่อนคลาย แต่ เหล้า เบียร์ก็เป็นตัวเพิ่มอะดรินาลีน จึงทำให้มันมากเกินไปจนร่างกายรับไม่ไหว ทำลายไม่ทัน จึงส่งผลต่อเซลล์สมองนั่นแหละครับ
ใครยังไม่เคยอ่านตอน metabolic syndrome ที่ผมเขียนไว้นานมากแล้ว ก็หาอ่านได้นะครับ
และหาวิธีเอาอะดรินาลีนออกให้ได้นะครับ ฟังเพลงที่ชอบ ๆ สวดมนต์
ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ บำเพ็ญภาวนา อย่างนี้เป็นต้นครับ ช่วยได้ราว30 % และสารอาหารที่จำเป็นต่อการดีท็อกซ์ฮอร์โมน ช่วยได้ 70% ครับและ...
!!!!! ถ้าน้องเค้าเจอผมช้ากว่านี้ น้องคนนี้จะได้ ยาจิตเวช ...ฟันธง..และอาจต้องเสียงาน เสียการ และอื่น ๆ อีกมากมายจากการวินิจฉัยเพื่อการใช้สารเคมีในการบำบัดครับ
สวัสดี