ฟรักโทส (ยาว แต่ยังไม่หมดนะ)

8 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

รายการ หมอนอกกะลา

ตอน ฟรักโทส (ยาว แต่ยังไม่หมดนะ)

ซูโครสใน (น้ำตาลทราย) และในผลไม้รสหวานนั้นส่วนที่เป็นปัญหาคือ ฟรักโตส น้ำตาลหลักตัวอื่น ๆ คือ กลูโคสซึ่งถูกนำไปใช้โดยเซลล์ทุกเซลล์ของเราเพื่อเป็นพลังงานและเป็นเชื้อเพลิงหลักสำหรับชีวิตบนโลกใบนี้

เนื่องจากน้ำตาลกลูโคสเป็นน้ำตาลที่ดีและสามารถนำมาใช้โดยเซลล์ของเราในรูปพลังงานและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบางส่วนของร่างกายของเรา แหล่งที่ดีที่สุดของคาร์โบไฮเดรตธรรมชาติคือพืชที่เป็นแป้ง แป้งเหล่านี้เป็นพอลิเมอร์ที่ซับซ้อนของโมเลกุลน้ำตาลกลูโคสซึ่งสารมารถย่อยได้ในระบบการย่อยอาหารของเราและถูกดูดซึมในรูปกลูโคส พืชแป้งได้ถูกประณามในอดีตที่ผ่าน แต่วิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าพืชแป้งไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพโดยทั่วไป แต่ยังได้รับการบริโภคมาเป็นเวลานานมากแล้วโดยบรรพบุรุษของเราในฐานะแหล่งพลังงานที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูง แน่นอนว่า หลายแหล่งเช่นแป้งธัญพืชและแป้งจากพืชตระกูลถั่วอาจสร้างปัญหาเมื่อบริโภคมากจนเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ป่วยที่ประสพปัญหาเกี่ยวกับการย่อย

จำนวนฟรักโตสที่จะกลายเป็นพิษและเป็นอันตรายต่อร่างกายจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายของปัจจัย แต่สำหรับคนที่มีสุขภาพดี การกินฟรักโตสมากที่สุดคืออยู่ที่ประมาณ 50 กรัมต่อวัน และให้ระลึกไว้ในใจเสมอว่าผลไม้ส่วนใหญ่เป็นน้ำตาลกลูโคสและฟรักโตสครึ่งต่อครึ่งการบริโภคน้ำตาลมากกว่า 100 กรัมจากผลไม้ทุกวันจะกลายเป็นปัญหาในที่สุด

และนี่คือ 10 เหตุผลของการบริโภคน้ำตาลฟรักโตสมากจนเกินไปไม่ว่าจะมาจากแอปเปิ้ล มังคุด ลองกอง ส้ม หรือน้ำเชื่อมฟรักโตสก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้เช่นกัน:

10 เหตุผลในการ จำกัดการบริโภคฟรักโตส

1 ฟรักโตส สามารถเผาผลาญได้โดยตับเท่านั้นและไม่สามารถใช้เป็นพลังงานในเซลล์ร่างกายของคุณได้ มันจึงไม่เพียงแต่ไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์สำหรับร่างกาย แต่ยังเป็นสารพิษในปริมาณที่สูงเพราะการทำงานของตับต้องคอยกำจัดฟรักโตสเสียเป็นส่วนใหญ่โดยจะเปลี่ยนมันเป็นไขมันและส่งไปยังเซลล์ไขมันของคุณเองนั่นแหละ

2 ฟรักโตสที่มากเกินไปสร้างความเสียหายต่อตับและนำไปสู่การต้านต่ออินซูลินในตับเช่นเดียวกับโรคไขมันเกาะตับ ในความเป็นจริง ฟรักโตสมีผลเช่นเดียวกับแอลกอฮอล์ (เอทานอล) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นพิษต่อตับ

3 ฟรักโตสทำปฏิกิริยากับโปรตีนและไขมันไม่อิ่มตัวในร่างกายของเรา มากกว่าน้ำตาลกลูโคสถึง 7 ครั้ง ปฏิกิริยานี้จะสร้าง AGEs (advanced glycation end-products) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดความเสียหายจากอนุมูลอิสระต่อเซลล์ของเราและในที่สุดก็นำไปสู่การอักเสบและโรคเรื้อรังต่าง ๆ

4 ฟรักโตสเพิ่มการผลิตกรดยูริคซึ่งการได้รับในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดโรคเก๊าต์ นิ่วในไตและการตกตะกอนหรือไปสนับสนุนโรคความดันโลหิตสูง

5 ในขณะที่เซลล์ของร่างกายไม่สามารถใช้ฟรักโตสเป็นแหล่งพลังงานได้แต่แบคทีเรียเลว ๆ ในลำไส้ของคุณสามารถและฟรักโตสก็เป็นแหล่งอาหารที่ดีของเชื้อโรคที่จะสร้างความไม่สมดุล และทำให้แบคทีเรียมีการเจริญเติบโตจนนำไปสู่การให้เกิดโรคอีกมากมายได้

6 ในส่วนของตับที่เกิดความเสียหายเรียบร้อยไปแล้วนั้นไม่ว่าจะเป็นโรคใดอยู่ก็ตาม การได้รับฟรักโตสอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดภาวะไขมันผิดปกติเรื้อรัง (dyslipidemia )ซึ่งหมายความว่า ไขมันในเลือดของคุณมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ

7 ฟรักโตสทำให้เกิดการต้านเลปติน( leptin resistance) Leptin เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารและการเผาผลาญอาหารที่จะรักษาน้ำหนักให้เป็นปกติ ในคนที่มีการต้านเลปติน มีแนวโน้มที่จะมีไขมันเพิ่มและกลายเป็นโรคอ้วนได้อย่างง่ายดายจริงๆ

8 แค่มีฟรักโตสเกินขนาดเพียงอย่างเดียว ก็อาจทำให้เกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะ metabolic syndrome (โรคเบาหวาน, โรคอ้วน, โรคหัวใจ เป็นต้น)

9 เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนได้เป็นอย่างดีกับฟรุกโตสเพราะเป็นแหล่งพลังงานของพวกมัน

10 ฟรักโตสส่วนเกินยังมีผลต่อการทำงานของสมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมความอยากอาหาร นอกจากนี้ยังแสดงให้ว่าหน่วยความจำในสมองของหนูลดลงอีกด้วย

และทั้งหมดนี้ ไม่ขอ ไม่บังคับ ให้เชื่อ ไม่ตื้อและไม่ง้อใครทั้งนั้น ผมสรุปมาจากงานวิจัยหลายต่อหลายเล่มเพื่อเป็นข้อมูลให้ได้วิปัสสนากัน กินไปเรื่อย ๆ แล้วจะรู้ได้ด้วยตัวเองนะครับ เมื่อเริ่มมีอาการผิดปกติก็ลองหยุดดูก็ได้ครับ

สวัสดี ชาวไทย

For friends outside Thailand read below:

Fructose
In sucrose (table sugar) and in sugary fruits, the fraction that is problematic is the sugar fructose.The other main fraction is glucose, which can be used by all our cells for energy and is the main fuel for life on earth.

Because glucose is the good sugar, can be used by all our cells for energy and is essential for some parts of our bodies, the best sources of natural carbohydrates are starchy vegetables. Starch is a complex polymer of glucose molecules that are disassembled in our digestive systems and absorbed as glucose. Starchy vegetables have been demonized in the past by , but science has shown that starchy vegetables are not only generally healthy, but have also been consumed for a very long time already by our ancestors as a dense source of energy. Of course, many sources of starch like grains and legumes are very unhealthy and over consumption of total carbohydrate is also problematic, especially for the already metabolically challenged.

Of course, the amount where fructose becomes toxic and damaging varies for everybody depending on a multitude of factors, but a good rule of thumb for most healthy people is at around 50 grams of fructose per day. Keeping in mind that most fruits are half glucose and half fructose, consuming over 100 grams of sugar from fruits every day can become problematic.

Here are 10 reasons why excess consumption of the sugar fructose, whether it comes from apples or high-fructose corn syrup, is damaging to our health:

10 reasons to limit fructose consumption

Fructose can only be metabolized by the liver and can’t be used for energy by your body’s cells. It’s therefore not only completely useless for the body, but is also a toxin in high enough amount because the job of the liver is to get rid of it, mainly by transforming it into fat and sending that fat to our fat cells.

Excess fructose damages the liver and leads to insulin resistance in the liver as well as fatty liver disease. In fact, fructose has the same effects on the liver as alcohol (ethanol), which is already well known as a liver toxin.

Fructose reacts with proteins and polyunsaturated fats in our bodies 7 times more than glucose. This reaction creates AGEs (advanced glycation end-products), which are compounds that create oxidative damage in our cells and ultimately lead or contribute to inflammation and a host of chronic diseases.

Fructose increases uric acid production, which, in excess, can cause gout, kidney stones and precipitate or aggravate hypertension.
While most of your body’s cells can’t use fructose as a source of energy, the bacteria in your gut can and excess fructose can create gut flora imbalances, promote bacterial overgrowth and promote the growth of pathogenic bacteria.

In part because of the damage done to the liver, chronic excess fructose causes dyslipidemia, which means that your blood lipid markers tend to shift towards numbers that indicate a risk for heart disease.
Fructose rapidly causes leptin resistance. Leptin is a hormone that controls appetite and metabolism to maintain a normal weight. Leptin resistant people tend to gain fat and become obese really easily.

Excess fructose alone can cause all the problems associated with the metabolic syndrome (diabetes, obesity, heart disease).
Cancer cells thrive and proliferate very well with fructose as their energy source.

Excess fructose also affects brain functioning, especially as it relates to appetite regulation. It has also been shown to impair memory in rats.

ขอขอบคุณ
- Dr. Robert Lustig
-นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัย ทั่วโลกที่มีทั้งหนังสือ และ งานวิจัย ให้ผมได้ซื้ออ่านและ ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ

ขอบคุณ ภาพสวย ๆ จาก Kapook

ฟรักโทส, น้ำตาล, santi manadee, สันติ มานะดี