การกินโปรตีนถั่วเหลืองผง 30 cc. ทุกวันสามารถทำให้เกิดความผิดปกติที่เต้านมได้ จากฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสโตรเจน (phyto estrogen) (Petrakis, N.L., 1996) แต่สำหรับ The Weston A. Price Foundation เขียนไว้ว่า Soy phytoestrogens disrupt endocrine function and have potential to cause infertility and to promote breast cancer in adult women แปลว่า ฮอร์โมนเอสโตรเจนในถั่วเหลือง ขัดขวางการทำงานของต่อมไร้ท่อ และมีแนวโน้มที่จะทำให้เป็นหมัน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิง
การใช้โปรตีนถั่วเหลืองผง เป็นอาหารในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นมีภาวะเหมือนได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Baird, D.D., et al.,1995)
โปรตีนถั่วเหลืองมีสารต้านธัยรอยด์ฮอร์โมน คือ
- ไอโซฟลาโวน (Isoflavone)
- เจนิสทีน (Genistein)
- เดดซีน (Daidzein) (Divi,R.I., and D.R. Doerge, 1997)
โปรตีนถั่วเหลืองมีสารต้านธัยรอยด์ฮอร์โมน พบว่า มีภาวะธัยรอยด์ฮอร์โมนต่ำในเด็กทารกที่กินนมถั่วเหลือง (Valentine, Tom, 1997) มีการศึกษาการทำงานของต่อมธัยรอยด์ในคนที่กินถั่วเหลือง พบว่า ต่อมธัยรอยด์ถูกกดการทำงานและมีคอพอกในหลายงานวิจัย (Ishizuki,Y., et al., 1991; Divi,R.I., and D.R. Doerge, 1997)
ถั่วเหลืองมีสารต้านน้ำย่อยโปรตีน ซึ่งยับยั้งการย่อยสลายโปรตีน จะทำให้ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายโปรตีนได้ (Fallon, S.W. and Mary G. Enig 1995)
โปรตีนถั่วเหลืองมีสาร phytic acid สูงมาก สารนี้ยับยั้งการดูดซึมเกลือแร่ โดยเฉพาะ สังกะสี, แคลเซียม, แมกนีเซียม, เหล็ก (Fallon, S.W. and Mary G. Enig 1995)
ถั่วเหลืองมีสารที่ทำให้โปรตีนจับตัวกันเป็นก้อนที่เรียกว่า Hemagglutinin ทำให้เม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวจับกันเป็นก้อน ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดเสียไป (Fallon, S.W. and Mary G. Enig 1995)
กระบวนการผลิตโปรตีนถั่วเหลือง ทำให้เกิดสารพิษที่เรียกว่า “ไลซิโนอะลานีน” และสารก่อมะเร็งที่ชื่อว่า “ไนโตรซามีน” (The Weston A. Price Foundation in Washington, DC)