ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
โบทานีก้าเสริมแคลเซียม 
แคลเซียมสารอาหารที่จำเป็นกับคนทุกเพศทุกวัย การได้รับโปรตีนดี ๆ จากพืชเสริมแคลเซียม ทำให้หมดกังวลกับปัญหากระดูกผุ กระดูกกร่อนก่อนวัย ประโยชน์ของโปรตีนจากพืช คือ ช่วยลดปัญหาเส้นเลือดอุดตันที่สมองและหัวใจ ช่วยควบคุมเบาหวานและน้ำตาลในเลือดต่ำ ช่วยลดอาการกระดูกผุ เพิ่มความต้านทานโรค ช่วยลดอาการไมเกรน อาการปวดท้องขณะมีประจำเดือน ช่วยลดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ช่วยลดอาการเฉื่อยชา อัมพาต อัมพฤกษ์ ช่วยทำให้ระบบการกำจัดสารพิษของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น
 
ฟื้นคืนสุขภาพแบบยั่งยืนด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด เพื่อให้กลไกการฟื้นฟูของร่างกายแข็งแรงขึ้น เราจึงต้องการอาหารที่จะช่วยปรับสมดุลแบบยั่งยืนให้กับร่างกาย นั่นคือที่มาของอาหารปรับสมดุลแบบยั่งยืนจากธรรมชาติ ผลิตจากธัญพืชที่คัดสรรพิเศษ ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีทางชีวภาพและขบวนการไฮโดรไลซิส เพื่อแปรสภาพอาหารที่อัดแน่นและยากต่อการย่อยสลาย ให้ง่ายต่อการดูดซึมและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการปรับสมดุลแบบยั่งยืนในร่างกายและลดความรุนแรงของโรค เรียกว่า วิธีฟื้นคืนสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติบำบัด
 
โบทานีก้าผสมแคลเซียม มีส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่
ข้าวกล้องผง 25% 
ข้าวโพดผง 25%
ถั่วเหลืองผง 20%
ข้าวเหนียวเมล็ดสั้นผง 14%
ข้าวสาลีผง 15%
ไดแคลเซียม มาเลท 1%
 
วิธีรับประทาน : เครื่องดื่มธัญพืชชนิดผงโบทานีก้า 1-2 ช้อนชา ชงกับน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน (150 มล.) คนให้ละลาย ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า,กลางวัน,เย็น และหรือก่อนนอน ควรดื่มในขณะร้อน
 
ราคา 1,200฿

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

BELIEVE THE TRUTH
ตอน เม็ดเลือดแดงที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง 

1.ค่า Hb

ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) คือส่วนประกอบสำคัญของเลือดที่ขาดไม่ได้ เพราะมีหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ความผิดปกติเพียงเล็กน้อย(ย้ำ..!! เพียงเล็กน้อย)ของระดับฮีโมโกลบินในเลือด อาจเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพหลายประการ หากมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับฮีโมโกลบินเพียงพอ จะช่วยให้ตระหนักถึงความเสี่ยงและเตรียมรับมือปัญหาสุขภาพได้อย่างถูกต้อง

ลงลึกอีกหน่อยนะ ...ฮีโมโกลบินคืออะไร

ฮีโมโกลบิน เป็นโมเลกุลโปรตีนภายในเซลล์เม็ดเลือดแดง เกิดจากโมเลกุลโปรตีน 4 ตัวที่เชื่อมต่อกันหรือที่เรียกว่าสายโกลบูลิน (Globulin Chains) โดยปกติโครงสร้างของฮีโมโกลบินในผู้ใหญ่จะประกอบไปด้วยสายโกลบูลินชนิดอัลฟา 2 ตัวและสายโกลบูลินชนิดเบต้า 2 ตัว ส่วนในทารกพบเพียงสายโกลบูลินชนิดอัลฟา 2 ตัวและสายโกลบูลินชนิดแกมมา 2 ตัว ไม่พบสายโกลบูลินชนิดเบต้า แต่เมื่อทารกเริ่มโตขึ้น สายโกลบูลินชนิดแกมมาจะค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยสายโกลบูลินชนิดเบต้าและกลายเป็นโครงสร้างของฮีโมโกลบินแบบผู้ใหญ่ต่อไป

ทั้งนี้สายโกลบูลินแต่ละตัวไม่เพียงเป็นโครงสร้างสำคัญของฮีโมโกลบินเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วยสารในกลุ่มพอฟีรีนที่มีชื่อว่าฮีม (Heme) อันมีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบ ซึ่งสารฮีมนี้ทำหน้าที่ดักจับและขนส่งออกซิเจนกับคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด

ฮีโมโกลบินที่พบได้ทั่วไปมี 3 ชนิด ได้แก่

ฮีโมโกลบิน เอ (Hemoglobin A) เป็นฮีโมโกลบินชนิดที่พบได้มากที่สุดในวัยผู้ใหญ่ แต่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคบางชนิดเช่น โรคธาลัสซีเมียขั้นรุนแรง อาจมีระดับฮีโมโกลบินชนิดนี้ลดลงได้

ฮีโมโกลบิน เอฟ (Hemoglobin F) พบในทารกที่อยู่ในครรภ์และเด็กแรกเกิด ซึ่งฮีโมโกลบินชนิดนี้จะถูกแทนที่ด้วยฮีโมโกลบิน เอ ภายในไม่นานหลังจากเกิด จากนั้นร่างกายจะผลิตฮีโมโกลบิน เอฟออกมาในปริมาณน้อยมาก แต่หากป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย โรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงเป็นรูปเคียว โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวอาจพบฮีโมโกลบินชนิดนี้ในปริมาณสูงได้

ฮีโมโกลบิน เอ2 (Hemoglobin A2) เป็นฮีโมโกลบินที่พบในผู้ใหญ่แต่มีปริมาณเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้ ยังมีฮีโมโกลบินชนิดที่ผิดปกติอีกกว่า 350 ชนิด ซึ่งอาจพบในผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบเลือดหรือคนบางกลุ่มชาติพันธุ์โดยชนิดที่พบได้บ่อยคือ

ฮีโมโกลบิน เอส (Hemoglobin S) พบในผู้ป่วยโรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงเป็นรูปเคียว
ฮีโมโกลบิน ดี (Hemoglobin D) พบในผู้ป่วยโรคโลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงเป็นรูปเคียวบางราย
ฮีโมโกลบิน ซี (Hemoglobin C) พบในผู้ป่วยที่มีภาวะฮีโมโกลบินดักจับออกซิเจนได้ไม่ดีเพียงพอ
ฮีโมโกลบิน อี (Hemoglobin E) อาจพบได้ในคนที่สืบเชื้อสายจากชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ ฮีโมโกลบิน เอส และฮีโมโกลบิน ซี เป็นฮีโมโกลบินชนิดผิดปกติที่ตรวจพบได้บ่อยที่สุด

ฮีโมโกลบินมีหน้าที่อย่างไร

หน้าที่สำคัญของฮีโมโกลบินคือการลำเลียงออกซิเจนจากปอดไปยังเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากเนื้อเยื่อกลับมายังปอด ทั้งยังช่วยรักษารูปร่างของเม็ดเลือดแดงให้เป็นปกติ คือมีลักษณะเป็นวงกลมและตรงกลางเว้าคล้ายโดนัท...แต่ไม่เป็นรู หากโครงสร้างของฮีโมโกลบินผิดปกติจะส่งผลให้เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างต่างไปจากเดิมและอาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดได้

2.HCT หรือ Hct (เฮมาโตคริต) หรือความเข้มข้นของเลือดเป็นการตรวจเพื่อหาปริมาตรเม็ดเลือดแดงในเลือด มักเรียกทับศัพท์ว่า haematocrit หรือ hematocrit หรือปริมาตรเซลล์อัดแน่น (packed cell volume, PCV) หรือเข้าใจกันง่ายๆ ก็คือเป็นการวัดว่าร่างกายมีเม็ดเลือดแดงพอหรือไม่ หากไม่พอก็เกิดภาวะโลหิตจาง

ทำไมจึงต้องตรวจความเข้มของเลือด

การตรวจความเข้มข้นของเลือดเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ความผิดปกติที่พบมีได้ทั้งมากเกินไปและน้อยเกินไป ค่าเข้มข้นของเลือดไม่ได้บอกสาเหตุของโรคแต่บอกปริมาณของเม็ดเลือดแดง

...น้อยเกินไป...

สาเหตุ

-เกิดจากร่างกายมีเม็ดเลือดแดงน้อยจากอาหารที่รับประทานหรืออาหารที่สกัดกั้นการสร้างเม็ดเลือดแดงอาทิ ถั่วเหลือง เต้าหู้ เป็นต้น

-เกิดโรคที่ทำให้บวม เช่นโรคตับแข็ง (cirrhosis) โรค Nephrotic syndrome เกิดการเจือจางเม็ดเลือดแดงทำให้ค่า Hct ต่ำลง

-เกิดการเสียเลือดค่อนข้างมากจากเหตุใดเหตุหนึ่งเช่น ริดสีดวงทวาร มีพยาธิปากขอในลำไส้ เลือดออกทางเดินอาหารหรือตกเลือด

-เกิดจากการขาดวิตามินเช่น วิตามินบี 12 กรดฟอลิก หรือธาตุเหล็ก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้ไขกระดูกผลิตเม็ดเลือดแดงได้ในขนาดที่เล็กลงหรือได้จำนวนน้อยลง ซึ่งย่อมมีผลโดยตรงทำให้ค่า Hct ต่ำลงกว่าปกติ

-เป็นโรคไขกระดูกมีความผิดปกติ (bone marrow failure) เช่นการติดเชื้อ จากยาหรือเนื้องอก ทำให้สร้างเม็ดเลือดแดงหรือเซลล์ชนิดอื่นๆลดลง

-โรคไตวายเรื้อรัง ทำให้ไตผลิตฮอร์โมนสร้างเม็ดเลือดแดง (erythropoietin) ลดลงซึ่งทำให้ไขกระดูกได้รับการกระตุ้นลดลงดังนั้นความเข้มข้นของเลือดจึงลดลง

-เกิดจากการตั้งครรภ์ เนื่องจากการตั้งครรภ์ย่อมสร้างสภาวะการกักคั่งน้ำ (state of overhydration) จึงย่อมมีผลทำให้เม็ดเลือดแดงลดความหนาแน่นลง ค่า Hct จึงต่ำลง ขณะกำลังตั้งครรภ์ร่างกายจะมีสภาวะบวมน้ำเล็กน้อยซึ่งจะมีผลทำให้เกิดสภาวะเลือดเจือจางลง (hemodilution)

-อาจมีโรคร้ายเกี่ยวกับไขกระดูกเช่น lymphoma, multiple myeloma, leukemia หรือ Hodgkin's disease

-โรคภูมิทำลายตัวเอง Autoimmune diseases เช่น lupus erythematosus or rheumatoid arthritis

-โรคที่ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกเช่น G-6 PD

-โรคมะเร็งเม็ดเลือด

-การกินยาบางชนิดก็อาจมีผลให้ค่า Hct ต่ำลงได้เช่น ยาปฏิชีวนะ chloramphenicol หรือ penicillin

...มากเกินไป...

สาเหตุ

-เกิดสภาวะการสร้างเม็ดเลือดแดงมาก (erythrocytosis) เช่น การขึ้นไปอยู่ในที่สูงซึ่งมีออกซิเจนเบาบาง ร่างกายต้องเร่งสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาให้มากกว่าปกติ ในการนี้ย่อมอาจทำให้เม็ดเลือดแดงที่ผลิตไว้แล้วคับคั่งเกินความจำเป็น

-ผู้ที่เป็นโรคหัวใจมาแต่กำเนิด (congenital heart disease) ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงให้มีจำนวนมากขึ้นเพื่อส่งออกซิเจนให้แก่กล้ามเนื้อหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ในปริมาณที่พอเพียง

-โรคเม็ดเลือดแดงมากเกิน (polycythemia vera) ซึ่งเป็นโรคที่ไขกระดูกสร้างเม็ดเลือดแดงมาก

-เกิดจากการขาดน้ำ Dehydration อย่างรุนแรง เช่น เกิดอาการถ่ายท้องอย่างรุนแรง ถูกไฟลวกอย่างรุนแรง ฯลฯ

-โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease, COPD) ร่างกายต้องสร้างเม็ดเลือดแดงเพิ่มเพื่อชดเชยภาวะขาดออกซิเจนจากโรคปอดเรื้อรัง

-ขนาดของเม็ดเลือดแดงที่ใหญ่กว่าปกติ ก็จะทำให้ Hct ต่ำอันเป็นผลจากการคำนวณสูงเกินความจริงไปด้วย

ในกรณีที่เซลล์เม็ดเลือดขาวมีจำนวนสูงเกินปกติมากจะมีผลในขณะปั่นเลือดด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง อาจทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวปะปนกับเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้ดูเหมือนว่าเม็ดเลือดแดงมากขึ้นโดยเหตุนี้ย่อมทำให้ Hct สูงขึ้นด้วย

-โรคไตที่มีการสร้าง erythropoietin เพิ่มขึ้น

3.MCH (Mean corpuscular hemoglobin) หมายถึงค่าเฉลี่ยน้ำหนักของฮีโมโกลบิน (Hb)ในเซลล์เม็ดเลือดแดง 1 เซลล์

การคำนวนค่า MCH

การคำนวนค่า MCHC และ MCH จะคำนวนจากค่า hemoglobin (Hgb), hematocrit (Hct), และจำนวนเม็ดเลือดแดง RBC count:

MCH = Hgb/RBC count

การนำค่า MCH มาใช้

หากตรวจค่า Hematocrit แล้วพบว่ามีโลหิตจาง เราจะมาดูค่า MCH หากน้อยกว่าปกติเรียกว่า hypochromic

MCH น้อยกว่าค่าปกติ: hypochromic anemia
MCH อยู่ในช่วงปกติ: normochromic anemia
MCH มากกว่าค่าปกติ: hyperchromic anemia

ค่า MCH สูงเกินไป แสดงว่าเซลล์เม็ดเลือดแดงมีขนาดใหญ่(MCV มีขนาดใหญ่) เนื่องจากมีปริมาณฮีโมโกลบินในเซลล์มากหรือโรคโลหิตจางที่ขาดวิตามินบี12

ค่า MCH ต่ำเกินไป แสดงว่ามีความผิดปกติของฮีโมโกลบิน เช่นโรคThalassemiaโรคโลหิตจางที่ขาดธาตุเหล็ก

4.MCHC (Mean Corpuscular Hemoglobin Concentration) เป็นค่าเฉลี่ยของความเข้มข้นของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ค่า MCHC นี้สามารถต่ำ ปกติ และสูงได้แม้ว่าจำนวนเม็ดเลือดแดงของคุณจะปกติ

อาการ

ผู้ที่มีค่า MCHC ต่ำมักเกี่ยวข้องกับภาวะซีดและ

อ่อนเพลียและไม่มีแรงเรื้อรัง
หายใจลำบาก
ช้ำง่าย
เวียนหัว
อ่อนแรง

ผู้ที่มีระดับ MCHC ต่ำเล็กน้อยหรือเพิ่งต่ำนั้นอาจจะไม่มีอาการอะไรเลย

สาเหตุ

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่ทำให้ค่า MCHC ต่ำก็คือภาวะซีด โดยภาวะซีดชนิดที่เม็ดเลือดแดงมีขนาดเล็กและสีจางนั้นมักจะทำให้ค่า MCHC ต่ำและเกิดได้จาก

-การขาดธาตุเหล็ก
-การที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้เช่นจากการเป็นโรคเซลิแอค Crohn’s disease และการผ่าตัดกระเพาะอาหาร
-การมีเลือดออกในปริมาณเล็กน้อยเป็นเวลานานซึ่งอาจเกิดจากการมีประจำเดือนนานหรือมีแผลในกระเพาะอาหาร
-ภาวะเม็ดเลือดแดงแตกตัวก่อนเวลา

กรณีพบได้น้อย การมี MCHC ต่ำและภาวะซีดลักษณะนี้นั้นสามารถเกิดได้จาก
มะเร็งซึ่งรวมถึงมะเร็งที่ทำให้มีเลือดออกภายใน
การติดเชื้อปรสิตเช่นพยาธิปากขอ
การได้รับสารพิษจากตะกั่ว

หวังว่าโพสต์นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยและการแก้ความพร่องเหล่านี้ป๋าแก้โดยการให้กินตับ เนื้อวัวสัปดาห์ละ 3 มื้อๆละอย่างน้อย 2 ช้อนโต๊ะร่วมกับน้ำปั่นป๋าทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ซอง แต่ถ้าพร่องมากอาจต้องใช้ถึง 3 ซองต่อวัน

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

โพสต์ที่ควรอ่านเพิ่มเติม

https://m.facebook.com/photo.php?fbid=385878964900465&id=100004350947568&set=a.331355487019480

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=857872191034471&id=100004350947568

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1016820525139636&id=100004350947568

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=873464962808527&id=100004350947568

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1250193705135649&id=100004350947568



เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

กรุณาโอนเงินที่:

ธนาคารกสิกรไทย
เลขที่บัญชี 011-8-87340-8
ชื่อ พิมพ์เดือน มิตรพันธ์พานิชย์

ติดต่อสอบถาม line: snailwhitebeauty
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลบางนา สะสมทรัพย์
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านSANTI MANADEE
SANTI MANADEE
ไม่เอาภาระเข้าร่างกาย เอาสิ่งดี ๆ ใส่ให้กับร่างกาย คุณก็จะมีสุขภาพดี
เบอร์โทร : 0971654697
อีเมล :
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม