หนาวสั่น(chills)

อาการหนาวสั่น (ตัวสั่น) เกิดจากการสลับกันอย่างรวดเร็วระหว่างการหดตัวของกล้ามเนื้อและการคลายตัว การหดตัวของกล้ามเนื้อเป็นวิธีที่ร่างกายพยายามให้อบอุ่นแก่ร่างกายเมื่ออากาศเย็น

อาการหนาวสั่นมักเกี่ยวข้องกับไข้ แต่ไม่เสมอไป บางครั้งอาจเกิดก่อนมีไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการติดเชื้อทำให้เกิดไข้ ในบางครั้งอาจเกิดขึ้นโดยไม่มีอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้น อาการหนาวสั่นอาจร้ายแรงหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง

สภาวะหลายประการอาจทำให้หนาวสั่นโดยไม่มีไข้

- การสัมผัสกับความเย็น

คุณอาจรู้สึกหนาวสั่นในสถานที่เย็น เช่น ในมหาสมุทรหรือสระน้ำ หรือข้างนอกในวันที่อากาศหนาวเย็น คุณยังสามารถหนาวสั่นได้หากเสื้อผ้าของคุณเปีย คุณสามารถรู้สึกหนาวภายในอาคารได้เช่นกัน หากตั้งเครื่องปรับอากาศเย็นเกินไป

เมื่อมีอายุมากขึ้น การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายอาจทำได้ยากขึ้น แม้แต่ในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีก็ตาม สภาวะทางการแพทย์ เช่น โรคเบาหวานและโรคหัวใจ อาจส่งผลต่ออุณหภูมิร่างกายของคุณในช่วงอากาศหนาวเย็นได้เช่นกัน

อาการหนาวสั่นประเภทนี้ควรจะหายไปทันทีที่ร่างกายอบอุ่นขึ้น อย่างไรก็ตาม หากคุณมีอาการสั่นอย่างต่อเนื่องหลังจากได้รับความเย็นจัด คุณอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อุณหภูมิร่างกายต่ำ หรือความเย็นกัด ซึ่งอาจร้ายแรงทั้งคู่

อาการอื่นๆ ของภาวะเหล่านี้อาจรวมถึง:

• ชา

• การเปลี่ยนแปลงของสีผิว

• พูดไม่ชัด

• อาการง่วงนอนมาก

• รู้สึกแสบร้อนหรือแสบร้อน โดยเฉพาะที่นิ้วมือ นิ้วเท้า หู หรือจมูก

• แผลพุพอง

ขอความช่วยเหลือจากแพทย์ทันทีหากคุณสงสัยว่ามีอุณหภูมิร่างกายลดลงหรือมีอาการบวมเป็นน้ำเหลือง

-ผลข้างเคียงของยา

อาการหนาวสั่นที่ไม่มีไข้อาจเกิดจากการรับประทานยาบางชนิดหรือการใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้หากคุณใช้ยาในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง

- ปฏิกิริยาต่อการออกกำลังกายที่รุนแรง

การวิ่งมาราธอนหรือกีฬาผาดโผนอื่นๆ ที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายหลักเปลี่ยนแปลงไป ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการหนาวสั่น

การตอบสนองนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกสภาพอากาศ แต่อาจมีโอกาสมากกว่าในอุณหภูมิที่เย็นจัดหรือร้อนจัด:

• ในอุณหภูมิที่ร้อน ความอ่อนเพลียจากความร้อนและการขาดน้ำอาจทำให้เกิดปฏิกิริยานี้

• ในอุณหภูมิที่เย็น อุณหภูมิร่างกายต่ำและภาวะขาดน้ำอาจเป็นสาเหตุ

ในทั้งสองกรณี อาการอื่นๆ ที่คุณอาจพบ ได้แก่:

• ขนลุก

• ตะคริวของกล้ามเนื้อ

• เวียนศีรษะ

• ความเหนื่อยล้า

• คลื่นไส้และอาเจียน

คุณสามารถหลีกเลี่ยงอาการหนาวสั่นจากการออกกำลังกายได้โดยการคงความชุ่มชื้นไว้และแต่งตัวให้เหมาะสมกับการออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงเวลาที่หนาวที่สุดหรือร้อนที่สุดของวัน และจำกัดเวลาที่ใช้ในกิจกรรมที่เข้มข้น

การให้น้ำและคืนอุณหภูมิให้เป็นปกติสามารถขจัดอาการของคุณได้

ในบางกรณี คุณอาจต้องใช้ของเหลวชนิดฉีดเพื่อรักษาอาการ

- พร่องไทรอยด์ (ต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย)

ไทรอยด์ที่ทำงานน้อยเกินไปคือต่อมไทรอยด์ที่ผลิตฮอร์โมนไม่เพียงพอซึ่งจำเป็นต่อการควบคุมอัตราการเผาผลาญหรือสนับสนุนสุขภาพโดยรวม ภาวะนี้อาจทำให้รู้สึกไวต่อความเย็นเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการหนาวสั่น

อาการเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับภาวะพร่องไทรอยด์ ได้แก่:

• อาการบวมที่ใบหน้า

• น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ

• ผิวแห้ง เล็บและผม

• กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวด หรือตึง

• ภาวะซึมเศร้าหรือความรู้สึกเศร้า

• ปัญหาเกี่ยวกับความจำ

• อาการท้องผูก

Hypothyroidism ได้รับการวินิจฉัยโดยการตรวจเลือด เป็นภาวะที่รักษาได้

- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเกิดขึ้นหากระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำผิดปกติ หากคุณเป็นโรคเบาหวาน อาจเป็นสัญญาณว่าจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนยาหรือการรับประทานอาหาร ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำโดยไม่เป็นโรคเบาหวานก็เป็นไปได้เช่นกัน

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำต้องได้รับการรักษาทันทีเพื่อให้ระดับน้ำตาลในเลือดกลับสู่ระดับปกติ อาการอย่างหนึ่งของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำคือความรู้สึกสั่นหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งอาจเลียนแบบอาการหนาวสั่น อาการอื่น ๆ ของภาวะนี้ ได้แก่ :

• เหงื่อออก

• หงุดหงิด

• ใจสั่น

• รู้สึกเสียวซ่าบริเวณปาก

• ความสับสน

• อาการชัก

• มองเห็นภาพซ้อน

- ภาวะทุพโภชนาการ

ภาวะทุพโภชนาการเกิดขึ้นเมื่อร่างกายของคุณขาดสารอาหารที่จำเป็น สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้เนื่องจาก:

• การเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการไม่ดี และอาจเกิดจากการขาดธาตุเหล็ก

• ภาวะที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคแพ้กลูเตน ที่ส่งผลต่อความสามารถของร่างกายในการดูดซึมสารอาหารอย่างเหมาะสม

• ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร เช่น โรคเบื่ออาหาร (Anorexia Nervosa)

หากไม่มีสมดุลของสารอาหารที่เหมาะสม ร่างกายของคุณจะไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง

อาการอื่นๆ ของภาวะทุพโภชนาการ ได้แก่:

• เหนื่อยล้าหรือง่วงนอน

• ความอ่อนแอ

• มีสมาธิลำบาก

• ผิวสีซีด

• ผื่น

• ใจสั่น

• รู้สึกเป็นลม หน้ามืด หรือเป็นลม

• รู้สึกเสียวซ่าหรือชาของข้อต่อหรือแขนขา

• ในผู้ที่มีประจำเดือน ประจำเดือนขาด ประจำเดือนมามาก หรือมีบุตรยาก

พูดคุยกับแพทย์หากคุณสงสัยว่ามีภาวะทุพโภชนาการ นี่เป็นภาวะร้ายแรงที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษา

- ปฏิกิริยาทางอารมณ์

อาการหนาวสั่นอาจเกิดขึ้นได้หากคุณมีปฏิกิริยาทางอารมณ์อย่างลึกซึ้งหรือรุนแรงต่อสถานการณ์นั้น อารมณ์ที่อาจทำให้เกิดอาการหนาวสั่น ได้แก่ ความกลัวหรือวิตกกังวล

อาการหนาวสั่นอาจเกิดจากประสบการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกคุณอย่างลึกซึ้งในทางบวก เช่น การฟังเพลงหรือคำพูดที่สร้างแรงบันดาลใจ คุณอาจประสบปัญหาเหล่านี้เนื่องจาก ASMR

บางครั้งเรียกว่า "frisson" มันอาจจะเรียกว่า "หนาวสั่นขึ้นไปที่กระดูกสันหลัง" หรือ "ขนลุก"

- อาหารเป็นพิษ

การได้รับเชื้อแบคทีเรียจากอาหาร จะก่อให้เกิดแก๊สในระบบทางเดินอาหาร และทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและคลายตัวไม่เหมาะสม จึงทำให้เกิดหนาวสั่นได้

การเยียวยาที่บ้าน

อ่านในหัวข้อที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหา

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง