อาหารเป็นพิษ (food poisoning)

อาหารเป็นพิษไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะการเจ็บป่วยที่เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน เน่าเสีย หรือเป็นพิษเกิดขึ้นได้เสมอ อาการที่พบบ่อยที่สุดของอาหารเป็นพิษ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องร่วง

หากคุณมีอาหารเป็นพิษ อาการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของการติดเชื้อ

กรณีทั่วไปของโรคอาหารเป็นพิษมักมีอาการต่อไปนี้:

• ปวดท้อง

• ท้องเสีย

• คลื่นไส้

• อาเจียน

• สูญเสียความอยากอาหาร

• มีไข้เล็กน้อย

• ความอ่อนแอ

• ปวดศีรษะ

อาการที่เกิดจากอาหารเป็นพิษที่อาจคุกคามถึงชีวิต ได้แก่:

• ท้องร่วงที่กินเวลานานกว่า 3 วัน

• มีไข้สูงกว่า 38.9°C

• มองเห็นหรือพูดลำบาก

• อาการของภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง ซึ่งอาจรวมถึงปากแห้ง ปัสสาวะน้อยหรือไม่มีเลย

• ปัสสาวะเป็นเลือด

หากคุณมีอาการเหล่านี้ ให้ติดต่อแพทย์หรือไปพบแพทย์ทันที

ระยะเวลาที่จะแสดงอาการขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของเชื้อ แต่อาจมีตั้งแต่เพียง 30 นาที ไปจนถึง 8 สัปดาห์

ไม่ว่าจะได้รับการรักษาหรือไม่ก็ตาม กรณีส่วนใหญ่จะหายภายใน 1 สัปดาห์

สาเหตุของอาหารเป็นพิษ

อาหารเป็นพิษสืบย้อนได้จากสาเหตุหลัก 3 ประการ ได้แก่ แบคทีเรีย ปรสิต หรือไวรัส

เชื้อโรคเหล่านี้สามารถพบได้ในอาหารเกือบทั้งหมดที่มนุษย์กิน อย่างไรก็ตาม ความร้อนจากการปรุงอาหารมักจะฆ่าเชื้อโรคในอาหารได้เสมอ อาหารที่รับประทานดิบและอาหารที่ปรุงตั้งไว้เกิน 4 ชั่วโมง มักเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ

แบคทีเรีย

แบคทีเรียเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาหารเป็นพิษ สาเหตุของอาหารเป็นพิษจากแบคทีเรีย ได้แก่:

• อี. โคไล (E. coli)โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Shiga toxin-producing E. coli (STEC)

• ลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส

• ซัลโมเนลลา(Salmonella)

• แคมไพโลแบคเตอร์

• คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม

• เชื้อ Staphylococcus aureus

• ชิเกลล่า

• วิบริโอ วัลนิฟิคัส

เมื่อนึกถึงแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ชื่อต่างๆ เช่น E. coli และ Salmonella คือตัวที่ส่งผลมากที่สุด

แคมไพโลแบคเตอร์ และคลอสตริเดียม โบทูลินั่ม เป็นแบคทีเรีย 2 ชนิดที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ซึ่งสามารถแฝงตัวอยู่ในอาหารของเรา

ปรสิต

อาหารเป็นพิษที่เกิดจากปรสิตเกิดขึ้นไม่บ่อยเท่ากับอาหารเป็นพิษที่เกิดจากแบคทีเรีย แต่ปรสิตที่แพร่กระจายผ่านอาหารยังคงเป็นอันตราย :

• ท็อกโซพลาสมา กอนได

• Giardia lamblia

• พยาธิตัวตืดต่างๆ เช่น:

• Taenia saginata (พยาธิตัวตืดเนื้อ)

• Taenia solium (พยาธิตัวตืดหมู)

• Diphyllobothrium latum (พยาธิตืดปลา)

• คริปโตสปอริเดียม

• Ascaris lumbricoides ซึ่งเป็นพยาธิตัวกลมชนิดหนึ่ง

• พยาธิใบไม้ (พยาธิตัวกลม) เช่น Opisthorchiidae (พยาธิใบไม้ในตับ) และ Paragonimus (พยาธิใบไม้ในปอด)

• พยาธิเข็มหมุดหรือ Enterobiasis

• ไตรชิเนลลา

จากข้อมูลของ CDC พบว่าภาวะท็อกโซพลาสโมซิสเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ที่เกิดจากอาหารเป็นพิษใน

สิ่งที่น่ากังวลก็คือ gondii ยังพบได้ในกระบะทรายแมวอีกด้วย

ปรสิตสามารถอาศัยอยู่ในทางเดินอาหารและตรวจไม่พบเป็นเวลาหลายปี ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอและหญิงตั้งครรภ์มีความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้นหากปรสิตบางชนิดอาศัยอยู่ในลำไส้

ไวรัส

อาหารเป็นพิษอาจเกิดจากไวรัส เช่น:

• โนโรไวรัส ซึ่งบางครั้งเรียกว่าไวรัสนอร์วอล์ค

• โรตาไวรัส

• แอสโตรไวรัส

• ซาโปไวรัส

• ไวรัสตับอักเสบเอ

ไวรัสที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบเอสามารถแพร่เชื้อผ่านทางอาหารได้

การรักษาอาหารเป็นพิษ

อาหารเป็นพิษมักจะรักษาได้ที่บ้าน ต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถช่วยรักษาโรคอาหารเป็นพิษได้:

รักษาความชุ่มชื้น

หากคุณมีอาหารเป็นพิษ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาร่างกายให้ชุ่มชื้นอย่างเหมาะสม เครื่องดื่มเกลือแร่ที่มีอิเล็กโทรไลต์สูงก็มีประโยชน์ คาร์โบไฮเดรตช่วยเรื่องความเหนื่อยล้าได้

หลีกเลี่ยงคาเฟอีนซึ่งอาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร ชาที่ไม่มีคาเฟอีนพร้อมสมุนไพรผ่อนคลาย เช่น คาโมมายล์ เปปเปอร์มินต์ อาจช่วยให้อาการปวดท้องสงบลงได้

ทำข้าวต้มใส่เกลือหิมาลัย รับประทาน 2 มื้อติดกัน โดยไม่มีอาหารชนิดอื่นลงเข้าไปในระบบทางเดินอาหาร เป็นวิธีการที่ดี

และกรุณาขับถ่ายหรืออาเจียน เชื้อต่างๆออกมาให้หมด จะเป็นผลดีในระยะยาว

การกระทำใดๆไม่ว่าจะใช้ยาแก้อาเจียน หรือยาแก้ท้องร่วง แปลว่าคุณพยายามจะเก็บเชื้อเหล่านั้นไว้ในร่างกายของคุณ พวกเขาจะส่งผลกับคุณในระยะยาวได้

หลังจากอาการสงบแล้ว ควรเพิ่มปริมาณ จุลชีพฝั่งดีเข้าไปในระบบ

อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ อาหารที่เป็นพรีไบโอติกและโพรไบโอติก

ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

Butterfly

Synbc