เบาหวานกับวิตามินซี

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอันเนื่องมาจากการขยายตัวของเมืองและความทันสมัย เป็นสาเหตุที่ทำให้ความชุกของโรคความเสื่อมเพิ่มมากขึ้น

โรคหลายชนิดรวมอยู่ในกลุ่มโรคความเสื่อม เช่น เบาหวาน (DM) โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น

โรคเบาหวานเป็นโรคไม่ติดต่อชนิดหนึ่งที่จะมีเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารของผู้คนซึ่งบริโภคอาหารที่มีเส้นใยน้อยเกินไป

ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเป็นผลหลักของโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ และในระยะยาวอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อเส้นประสาทและหลอดเลือดได้ โรคเบาหวานมีอาการทางคลินิกที่มีลักษณะเป็นภาวะปัสสาวะมาก ภาวะโพลีดิปเซีย และภาวะโพลีฟาเจีย ร่วมกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหรือน้ำตาลในเลือดสูง (ระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร 126 มก./ดล. หรือภายหลังตอนกลางวัน 200 มก./ดล. หรือกลูโคสชั่วคราว ≥ 200 มก./ดล.)

เบาหวานอาจนำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายและทำให้การทำงานของหลอดเลือดบกพร่องได้ ภาวะนี้อาจส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะไม่เพียงพอ มีปัจจัยเสี่ยงหลายประการที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือด

วิถีชีวิตการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และภาวะไขมันในเลือดผิดปกติอาจส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว

วิตามินซีมีประสิทธิภาพในการป้องกันไกลโคซิเลชันของโปรตีนที่ไม่ใช่เอนไซม์

วิตามินซีอยู่ในกลุ่มวิตามินต้านอนุมูลอิสระที่สามารถปัดเป่าอนุมูลอิสระต่างๆ

วิตามินซีเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญที่สุดในพลาสมา

วิตามินซีสามารถละลายได้ในน้ำและกำจัดอนุมูลอิสระและป้องกันการเข้าสู่ของอนุมูลอิสระเข้าไปในคอเลสเตอรอลชนิด LDL

ที่สำคัญที่สุด ร่างกายไม่สามารถสร้างวิตามินซีเองได้และไม่จัดเก็บไว้ใช้ในวันต่อไป

การวิจัยจากมหาวิทยาลัยดีกิ้นพบว่าการรับประทานวิตามินซี 500 มิลลิกรัม วันละสองครั้งสามารถช่วยผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ได้โดยการลดระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นตลอดทั้งวัน และลดระดับน้ำตาลในเลือดที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลังมื้ออาหาร นอกจากนี้ วิตามินซียังดีต่อสุขภาพของหัวใจอีกด้วย

สิ่งนี้สำคัญมาก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2

ก่อนหน้านี้พบว่าวิตามินซีดีต่อการช่วยรักษาระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ปรับปรุงสุขภาพผิว เพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ ลดความเสี่ยงของโรคเกาต์ ต่อสู้กับโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย

คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของวิตามินซีสามารถช่วยป้องกันอนุมูลอิสระในระดับสูงที่พบในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เห็นประโยชน์ของโรคร่วมหลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง

วิตามินซีมีอยู่ในผักสดทุกชนิด ดังนั้นหากคุณมีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง คุณควรใส่ใจกับการรับประทานผักสดในแต่ละมื้อให้ได้ร้อยละ 40 ของมื้ออาหารทุกมื้อ ... ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และป้องกันโรคต่างๆได้

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

อ้างอิง

:

Diabetes Nsw & Act. Vitamin C found to help Type 2

Diabetes.co.uk. Vitamin C linked to reduced glucose levels in type 2 diabetes

Frykberb Robert G.(2002) Risk Factor, Pathogenesis and Management of Diabetik Foot Ulcers, Des Moines University, Iowa.

Journal Diabetes, Obesity and Metabolism. Ascorbic acid supplementation improves postprandial glycaemic control and blood pressure in individuals with type 2 diabetes: Findings of a randomized cross‐over trial