เก๊าท์และงานวิจัยใหม่ ๆ

6 ปีที่ผ่านมา

โดย เจ้าของร้าน

BELIEVE THE TRUTH

ตอน เก๊าท์และงานวิจัยใหม่ ๆ

ยารักษาโรคเก๊าท์..ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อหัวใจอย่างใหญ่หลวง

โรคเก๊าท์ถูกระบุโดยชาวอียิปต์ราว 2640 ปีก่อนคริสต์ศักราชและได้รับการยอมรับในภายหลังโดย Hippocrates และเรียกมันว่าเป็น "โรคเดินไม่ได้" [1,2,3,4] และดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตในแบบของคนที่ร่ำรวยมัน จึงได้ฉายาใหม่ว่า " โรคของกษัตริย์ "แต่ในทุกวันนี้วิทยาศาสตร์ได้มอบความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับโรคเก๊าท์มากขึ้น

หากคุณกำลังต่อสู้กับอาการปวดที่รุนแรงจากโรคเก๊าท์ คุณอาจได้รับการกำหนดยาต้านการอักเสบและยาอื่นๆเพื่อแก้ปัญหาทางเคมีพื้นฐานของโรคเก๊าท์ กลุ่มผู้สนับสนุนผู้บริโภค (5) กำลังกดดันให้ บริษัทยา Takeda นำยารักษาโรคเก๊าท์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายออกจากตลาด เนื่องจากการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 34 ของความตายจากโรคหัวใจ

Uloric เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัวใจ
Takeda เป็นบริษัทเภสัชกรรมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นและเอเชีย (7) และเป็นหนึ่งใน 15 บริษัทชั้นนำของโลก พวกเขามีสถานะเป็นสากลใน 70 ประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป อเมริกากลางและแอฟริกาตะวันออก (8) ยาที่เป็นปัญหาคือ Uloric (febuxostat) ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 สำหรับการรักษาโรคเก๊าท์และการรักษาอาการเรื้อรังของโรค hyperuricemia:ภาวะกรดยูริกเกินในเลือด (9)

การอนุมัติตามเกิดขึ้นหลังจากที่เคยล้มเหลวถึง 2 ครั้งในปี 2005 และ 2006 จากข้อกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่เพิ่มขึ้นในการทดลองทางคลินิก จากนั้นบริษัทยาจึงได้ดำเนินการทดลองครั้งที่สามซึ่งไม่พบความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดในแบบที่เคยพบ
การศึกษานี้รายงานว่าสารยับยั้ง non-purine xanthine oxidase มีฤทธิ์รุนแรงกว่า allopurinol เมื่อรับประทานทุกวัน การศึกษาเดียวกันรายงานว่า (10) "อุบัติการณ์ของผลข้างเคียงต่อระบบหัวใจและหลอดเลือดคือจะเกิด febuxostat ที่สูงกว่าในกลุ่มยา Allopurinol มาก แต่ก็ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ "

หลังจากที่ได้รวบรวมข้อมูลจากการศึกษาทั้งสามฉบับแล้ว FDA ไม่สามารถระบุได้ว่า(11) "มีความเชื่อมั่น" ว่ายามีความเสี่ยงสูงหรือไม่ ดังนั้นในการอนุมัติของ FDA จึงได้ออกคำเตือนไว้บนฉลากยาและขอให้บริษัทดำเนินการศึกษาหลังการขายที่มีขนาดใหญ่เพื่อประเมินความปลอดภัยของยาต่อไป

แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาเพื่อติดตามผลไม่ยืนยันผลดังกล่าว(12) ผู้ใช้ยา 6,190 รายได้รับการสุ่มตัวอย่างและได้รับ Uloric หรือ Allopurinol และกลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดเรื้อรังเช่นเดียวกับที่พบในผู้ที่เป็นโรคเก๊าท์ ครึ่งหนึ่งของผู้ได้รับการทดลองยังคงอยู่ในการศึกษาเป็นเวลาอย่างน้อย 32 เดือนและอีกครึ่งหนึ่งหยุดการใช้ยา(11)

อัตราการเกิดโรคเกาต์เกือบเท่ากันคือ : 0.68 ต่อผู้ป่วยต่อปีโดยใช้ Uloric และ 0.63 ต่อผู้ป่วยต่อปีที่ใช้ Allopurinol ในขณะที่อัตราการเพิ่มขึ้นของโรคคล้ายคลึงกันมาก แต่อัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดไม่เท่ากัน นักวิจัยพบว่าความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจสูงขึ้นถึงร้อยละ 34 ในผู้ป่วยที่ใช้ Uloric เมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้ Allopurinol นอกจากนี้นักวิจัยยังได้เปรียบเทียบอัตราการตายของผู้ที่ทานยา Uloric กับการเสียชีวิตที่เกิดจากสาเหตุใด ๆ และพบว่ามีความเสี่ยงสูงกว่าถึงร้อยละ 22 (14)

กลุ่มผู้บริโภคเรียกร้องให้ FDA กำจัดยาตัวนี้ออกจากตลาด
จากผลการค้นหาดังกล่าว Public Citizen : กลุ่มผู้สนับสนุนผู้บริโภคที่ไม่แสวงหาผลกำไรกำลังผลักดัน FDA เพื่อขจัด Uloric ออกจากตลาดสหรัฐฯ คำร้องขอ (15) อ้างว่ามี "หลักฐานที่ล้นหลามว่ามีผลอันร้ายแรงต่อหัวใจและหลอดเลือดอันเกิดจาก Uloric " [16]

ในทศวรรษที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่ได้รับการอนุมัติการใช้ยา คำร้องด้านสาธารณะของพลเมืองสหรัฐฯกล่าวว่า "มีการวางตลาดยาอย่างจริงจังและกำหนดให้กับผู้ป่วยอย่างน้อยนับร้อยนับพันที่ไม่ทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น "คำร้องของพวกเขายังรายงานว่า Takeda ได้รับเงินจากการขายในสหรัฐฯเป็นจำนวน 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปี 2012 ถึง2017

...แพทย์ถูกกระตุ้นให้เกิดการกำหนดยาใหม่
เมื่อมียาใหม่เกิดขึ้น แพทย์มักจะกระตือรือร้นที่จะใช้ยาเหล่านี้แม้ข้อมูลด้านการวิจัยแสดงให้เห็นว่าพวกเขาอาจไม่ได้ผลดีกว่ายาตัวเก่า สาเหตุหนึ่งที่เป็นเช่นนี้เนื่องจาก บริษัทยามีอิทธิพลต่อแพทย์โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้มแข็งเช่นการเสนออาหารฟรี สินค้าหรือแม้กระทั่งเงินสดในรูปของค่าธรรมเนียมการให้คำปรึกษา (18) บริษัทยาผลักดันยาตัวใหม่เนื่องจากมีราคาแพงกว่ายาตัวเก่าและมีผลกำไรมากขึ้นสำหรับบริษัท

ในกรณีของ Uloric มันมีราคาแพงกว่า Allopurinol ถึง 45 เท่าในขณะที่มีอัตราการป้องกันเกือบเท่ากัน แม้ว่าการศึกษาในช่วงต้นจะถูกยืนยันโดยการศึกษาที่ตามมาว่ามันเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นต่อการเกิดหัวใจวาย บริษัทยาจ่ายเงินหลายพันล้านเหรียญเพื่อสร้างอิทธิพล (สิ่งที่พวกเขาเรียกว่า "educate") และให้ความบันเทิงแก่แพทย์ทั่วโลก (19)

บนเว็บไซต์ Dollars for Docs- ProPublica : คุณสามารถตรวจสอบว่าแพทย์ยอมรับเงินจากอุตสาหกรรมยาหรือไม่ บริษัทยาได้ค้นพบวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการสร้างผลกำไรของพวกเขา แพทย์หลายรายมีการติดต่อกับอุตสาหกรรมยาและผู้แทนเป็นประจำ การศึกษาหนึ่งพบว่าแพทย์เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับผู้แทนด้านเภสัชกรรมในโรงเรียนแพทย์และคงความสัมพันธ์นี้โดยการพบปะกันในอัตราเกือบ 4 ครั้งต่อเดือน
การศึกษา (22) ใน New England Journal of Medicine ตั้งข้อสังเกตว่า "แพทย์ส่วนใหญ่ (94 เปอร์เซ็นต์) ถูกรายงานว่ามีความสัมพันธ์บางอย่างกับอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ "

แม้จะมีอัตราความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และบริษัทเภสัชกรรมที่สูง แพทย์หลายคนเชื่อว่าพวกเขาไม่ได้รับอิทธิพลจากของขวัญ อาหารฟรี การเดินทางท่องเที่ยวและการพูดคุยซึ่งทั้งหมดเป็นเงินจำนวนมาก พวกเขายอมรับว่ามีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมยามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจสั่งยาบางอย่างให้แก่ผู้ป่วยของตน (23)

แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่แพทย์ส่วนใหญ่เชื่อว่าของขวัญเหล่านี้ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของพวกเขา และโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยของพวกเขาไม่ทราบว่าพวกเขาได้รับอะไรจากอุตสาหกรรมยา...ไม่น่าแปลกใจที่ผู้ป่วยจำนวนมากที่ถูกสำรวจในการศึกษาหนึ่ง (24)กล่าวว่าพวกเขาจะเชื่อถือแพทย์ของพวกเขาน้อยลง ถ้าพวกเขารู้ว่าแพทย์ยอมรับของขวัญมูลค่ามากกว่า $ 100 จากอุตสาหกรรมยาหรือร่วมการเดินทางหรือการแข่งขันกีฬาที่สนับสนุนโดยอุตสาหกรรมยา

หนึ่งในสี่ของการสำรวจเดียวกัน (25) กล่าวว่า : พวกเขาจะกินยาให้น้อยลงหรือหยุดกินยาหากว่า”แพทย์ของพวกเขายอมรับของขวัญเพื่อการเข้ารับฟังการนำเสนอของตัวแทนเภสัชกรรมเกี่ยวกับยาดังกล่าว " ในขณะที่บริษัทยา เพลิดเพลินไปกับการสร้างแรงจูงใจในการเขียนใบสั่งยาสำหรับยาที่ใหม่กว่า ซึ่งจะทำให้เงินในกระเป๋าของพวกเขามากขึ้น นี่อาจเห็นได้ชัดว่าผู้ป่วยจำนวนมากถูกโกหกทางความคิด บางทีการดูแลสุขภาพของพวกเขาอาจได้รับอิทธิพลจากของขวัญเหล่านี้ก็เป็นได้

โรคเก๊าท์คืออะไรและสาเหตุมาจากอะไร

โรคเก๊าท์เป็นชนิดของโรคไขข้ออักเสบที่ทำให้เกิดอาการปวดตึง บวมและอักเสบในข้อต่อและเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของคุณ (26,27) ความร้อนและรอยแดงอาจมีอยู่ในข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ โรคมักจะโจมตีข้อต่อของหัวแม่เท้า แต่หัวเข่า นิ้วและสะโพกในบางครั้งก็อาจถูกโจมตีได้เช่นกัน อาการของโรคเก๊าท์เกี่ยวข้องกับปริมาณกรดยูริคที่มากเกินไปในร่างกายซึ่งเป็นของเสียจากกระบวนการเผาผลาญของฟรักโทส ระดับสูงของยูริคมักเกี่ยวข้องกับความดันโลหิตสูง โรคอ้วนและโรคไต [28]

กรดยูริคเป็นทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและโปร-ออกซิแดนท์ภายในเซลล์ การลดกรดยูริคมากเกินไปคุณจะสูญเสียผลประโยชน์ด้านการต้านอนุมูลอิสระ แต่เมื่อคุณมีระดับที่มากเกินไปก็จะเริ่มก่อให้เกิดอันตราย เมื่อกระบวนการเผาผลาญอาหารที่ควบคุมปริมาณกรดยูริคในเลือดของคุณไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ..โรคเกาต์มาเยือนคุณอย่างแน่นอน.. อาการของโรคเก๊าท์สุดแสนจะระทึกและถูกอธิบายว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบที่เจ็บปวดมากที่สุดของโรคข้ออักเสบ

แม้ว่าอาการของโรคเก๊าท์จะหายได้ภายใน 10 วันแต่ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ตลอดชีวิตเมื่อการโจมตีเกิดขึ้น รวมถึงความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา แม้ว่าการรักษาด้วยยาอาจทำงานได้ดีในระยะสั้นๆแต่ส่วนใหญ่ก็มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายในระยะยาว ด้วยเหตุนี้แพทย์ของคุณอาจจะแนะนำให้คุณใช้ยาเป็นระยะเวลานานซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ

มีหลายระยะของโรคนี้ที่คุณจะต้องเฝ้าติดตาม [29] ระยะแรกคือไม่มีอาการ :ในขณะที่คุณไม่มีอาการระดับกรดยูริคถูกสร้างในเลือดและผลึกกำลังก่อตัวขึ้นในข้อต่อของคุณ ในระยะเฉียบพลัน : ระดับกรดยูริคอาจเพิ่มขึ้นและเคลื่อนไหวในรูปแบบผลึกที่ก่อตัวขึ้นเพื่อการโจมตีร่วมกัน

การอักเสบและอาการปวดมักเริ่มต้นในเวลากลางคืนและเริ่มหนักขึ้นในอีก 12 ชั่วโมง ในขณะที่บางคนอาจไม่เคยมีประสบการณ์การโจมตีครั้งที่สองซึ่งนั่นอยู่ในประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของช่วงปีแรก (30) แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ในเวลาระหว่างการโจมตี คุณไม่มีความเจ็บปวด แต่สภาพยังไม่ได้รับการการแก้ไข การอักเสบในระดับต่ำอาจทำให้เกิดข้อเสียหายได้ โรคเก๊าท์เรื้อรังพัฒนาขึ้นเมื่อระดับกรดยูริคสูงในเวลาหลายปีและการโจมตีที่บ่อยขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปความเสียหายร่วมกันอาจเกิดขึ้นซึ่งจะนำไปสู่การสูญเสียการเคลื่อนที่ของคุณได้

โรคเก๊าท์เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและอื่น ๆ

ถึงแม้ว่าหลักฐานของโรคจะเข้มข้นในข้อต่อส่วนล่างของร่างกาย โรคเกาต์ยังมีผลต่อ bursaในร่างกายของคุณ (31) bursa เหล่านี้เป็นถุงลื่นๆที่ให้การสนับสนุนกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง olecranon bursa ในข้อศอกและ prepatellar bursa ในหัวเข่าของคุณมีแนวโน้มที่จะถูกโรคเก๊าท์เล่นงานจนลุกเป็นไฟ การโจมตีของโรคเก๊าท์ยังสามารถแพร่กระจายไปยังปลอกเส้นเอ็นได้ทั้งสองชั้นของเมมเบรนรอบเส้นเอ็น (32) ซึ่งเป็นตัวรับผิดชอบต่อการเคลื่อนไหวที่เหมาะสมของร่างกาย

การรักษาทันทีทันใดสำหรับสภาพที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อน หนึ่งในนั้นคือการก่อตัวของ Tophi : ก้อนของกรดยูริคที่อยู่ใต้ผิวหนังและล้อมรอบข้อต่อที่ติดเชื้อ(33)อาการเหล่านี้มีความเจ็บปวดและอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่เนื้อเยื่ออ่อน ความเสียหายของข้อและอาการการบีบอัดของเส้นประสาท
บุคคลที่เป็นโรคเก๊าท์ยังมีความเสี่ยงสูงต่อความเสียหายที่ไตและหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาหนึ่งพบว่าโรคเก๊าท์เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและเหตุการณ์เกี่ยวกับหลอดเลือดในสตรี แต่ไม่ใช่โรคหลอดเลือดตีบที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดในสมอง(34)

แม้ว่าความเสี่ยงจากภาวะยูริคสูง(hyperuricemia) มีขนาดเล็กลงเมื่อเทียบกับปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ของโรคหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ แต่ก็มีความสำคัญและมีบทบาทในความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยาในการรักษาโรคเก๊าท์และความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหัวใจวายเพิ่มขึ้น บางทฤษฎีกล่าวว่า...การตอบสนองของการอักเสบเฉียบพลันจากผลึกยูริคในข้อต่ออาจจะเกี่ยวข้องกับภาวะเซลล์บุผิวหลอดเลือดทำงานผิดปกติ (endothelial dysfunction) ความผิดปรกติที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ [35]

โรคเก๊าท์ยังเกี่ยวข้องกับการอักเสบต่อระบบซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เป็นที่รู้จักของโรคหัวใจ การเพิ่มเครื่องหมายเช่นอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงและ C-reactive protein

..วิธีการรักษาโรคเก๊าท์ธรรมชาติ..

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความชุกของโรคเก๊าท์เพิ่มมากขึ้นในประเทศที่พัฒนาแล้วเนื่องจากเงื่อนไขดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารแปรรูปและการอุทิศตัวให้กับนิสัยการดำเนินชีวิตที่ไม่แข็งแรงอื่น ๆ ในขณะที่คนพื้นเมือง มีชีวิตที่เหนียวแน่นอยู่กับกลางแจ้ง ออกกำลังกาย กินอาหารที่ไม่แปรรูปทุกข์ทรมานจากโรคเก๊าท์ค่อนข้างน้อย

การใช้ยาในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงในการได้รับผลข้างเคียงบางอย่างที่ร้ายแรง การเปลี่ยนแปลงทางเลือกในการดำเนินชีวิตของคุณเพียงเล็กน้อยอาจลดความเสี่ยงต่อโรคเก๊าท์หรือลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะลุกเป็นไฟได้อีก
สุขภาพของคุณอยู่ภายใต้การรายล้อมจากทุกทิศทางของสารพิษไม่ว่าจะเป็นในสิ่งแวดล้อม ในอาหารที่ผ่านกระบวนการจนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกันตัวเอง....เว้นแต่คุณจะได้รับการติดตั้งข้อมูลด้านสุขภาพที่ทันสมัย
งานที่ซับซ้อนมากที่สุดสามารถทำได้ง่ายขึ้น ..เพียงแค่ทำทีละขั้นตอน ภาพรวมต่อไปนี้เป็นคำแนะนำที่ครอบคลุมซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้:

-กินอะไรและกินเมื่อไหร่
-ออกกำลังกายด้วยวิธีอะไรก็ได้ที่คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องรีรอ

-เพิ่มพลังแห่งสุขภาพทางอารมณ์ ฟังเพลง ฟังธรรม สวดมนตร์ ขอพรจากพระเจ้า
-เสริมสร้างสุขภาพของคุณด้วยอากาศ แสงแดดและน้ำที่ดี
-หาวิธีการที่ทำให้คุณนอนหลับได้สนิท

และโปรดจำไว้ว่า...

กรดยูริคเป็นผลพลอยได้จากการเผาผลาญของฟรักโตส(36)ซึ่งมักสร้างกรดยูริคภายในไม่กี่นาทีหลังจากการกลืนกินและฟรักโตสมีอิทธิพลต่อความเสี่ยงในโรคอ้วน โรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ รวมทั้งโรคเก๊าท์ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและโรคไต

ฟรักโตสแตกต่างจากน้ำตาลอื่นเนื่องจากมันถูกเผาผลาญผ่านทางเดินที่สร้างกรดยูริค ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of the American Medical Association(37) แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ดื่มน้ำโซดามากกว่าสองกระป๋องต่อวันมีแนวโน้มเป็นโรคเกาต์ถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ค่อยดื่มโซดา

การดื่มน้ำส้มประมาณ 350 มิลลิลิตรหรือมากว่ามีผลเช่นเดียวกัน การศึกษาอื่น [38] แสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่ดื่มน้ำอัดลมสองกระป๋องหรือมากกว่า มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 85 ของโรคเก๊าท์ เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มไม่ถึง 1 กระป๋องต่อเดือน

จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...เบียร์

ยีสต์และส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใช้ในการทำเบียร์เป็นกรดยูริคที่มีประสิทธิภาพสูงสุดยอด (39)
-หลีกเลี่ยงนมถั่วเหลือง

การวิจัยแสดงให้เห็นว่านมถั่วเหลืองเพิ่มระดับกรดยูริคประมาณร้อยละ 10(41)

...ออกกำลังกาย....

การออกกำลังกาย....ไม่แนะนำในขณะที่ข้อต่อของคุณมีอาการอักเสบเนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเพิ่มเติมขึ้นได้..แต่อย่างไรก็ตามเมื่อคุณสามารถควบคุมมันได้..การออกกำลังกายเป็นส่วนเสริมที่จำเป็นและอาจช่วยป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปได้โดยการเพิ่มการไหลเวียนโลหิตและทำให้ระดับกรดยูริคเป็นปกติ การออกกำลังกายช่วยลดภาวะซึมเศร้า (42) เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (43) และปรับปรุงความต้านทานต่ออินซูลิน (44)

...พิจารณาสมุนไพรบำบัด…
สมุนไพรและเครื่องเทศบางอย่างรวมทั้งขิง (45) ขมิ้น(46) โสมอินเดีย (ashwagandha)(47) อาจช่วยบรรเทาอาการของโรคเก๊าท์และการตอบสนองต่อการอักเสบ

...กินอาหารที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียม…

ในบางคนที่มีโรคเก๊าท์อาจมีภาวะโพแทสเซียมต่ำและการเตรียมโพแทสเซียมซิเตรตอาจช่วยในการขับถ่ายกรดยูริคออกทางปัสสาวะได้(48) ความสมดุลที่เหมาะสมภายในและภายนอกเซลล์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกายของคุณในการทำงานอย่างถูกต้อง หากคุณรับประทานอาหารที่มีการแปรรูปสูงคุณอาจไม่ได้รับโพแทสเซียมมากพอ

พืชเหล่านี้มีโพแทสเซียมสูง บางทีการได้กินเป็นประจำอาจช่วยคุณได้ (49,50)

หน่อไม้ฝรั่ง บรอคโคลี่ ดอกกะหล่ำ แครอท แขนง กะหล่ำปลี ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดขาว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง ยอดฟักแม้ว ใบแค ใบคื่นช่าย มันเทศ มันฝรั่ง ฟักทอง อโวคาโด น้ำแครอท น้ำมะเขือเทศ กระเจี๊ยบ

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

สวัสดี

อ้างอิง :

1 Arthritis Research and Therapy, 2006;8(Suppl 1):s1
2 Annals of the Rheumatic Diseases January 15, 2014
3, 28 Science Daily, July 28, 2011
4 Rheumatology Network, November 11, 2016
5 StatNews, June 21, 2018
6, 12 The New England Journal of Medicine, 2018; 378:1200
7 Wikipedia, Takeda Pharmaceutical Company
8 Takeda Pharmaceutical Worldwide Offices
9 Drugs.com, Uloric Approval History
10 Rheumatology, 2009; 48(Suppl 2):ii15
11, 16 FiercePharma, June 21, 2018
13 NewsMax, March 13, 2018
14, 18 The Institute for Natural Healing, April 3, 2018
15 Public Citizen, June 21, 2018
17 ThePharmaLetter, June 22, 2018
19 Journal of the Royal Society of Medicine 2006 Jun; 99(6): 292
20 ProPublica Dollars for Docs, Pro Publica, Dollars for Docs
21 Journal of the American Medical Association 2000 Jan 19;283(3):373
22 New England Journal of Medicine 2007; 356:1742
23 Journal of General Internal Medicine 2007 Feb;22(2):184
24, 25 Family Medicine 2012 May;44(5):325
26, 29, 30 Arthritis Foundation, What is Gout?
27 Centers for Disease Control and Prevention, Gout
31 American Academy of Orthopedic Surgeons, Gout
32 PubMed Health, "Tendon Sheath"
33 Johns Hopkins Arthritis Center, April 4, 2017
34, 35 Annals of the Rheumatic Diseases 2015;74(4):631
36 Gout and You, Sugar, Fructose, High Fructose Corn Syrup and Gout
37 Journal of the American Medical Association 2010 Nov 24;304(20):2270
38 British Medical Journal February 9 2008;336:285
39 Everyday Health, 6 Drinks that Can Increase Your Gout Risk
40 Arthritis & Rheumatism 2012;64(10)
41 European Journal of Nutrition, 2015;54(1):51
42 MayoClinic, Depression and Anxiety: Exercise Eases Symptoms
43 Medpage, July 25, 2014
44 J Obes Weight Loss Ther. 2015 Jul; 5(0 5): S5-003
45 Food and Chemical Toxicology 2010 Jan;48(1):229
46 Journal Ethnopharmacology 2006 Feb 20;103(3):357
47 Chemico-Biological Interactions 2006 Dec 15;164(3):174
48 Endocrine Research 2010;35(4):145
49 Dietary Guidelines for Americans 2015 Appendix 10
50 My Food Data, 20 Vegetables High in Potassium

เก๊าท์ สันติ มานะดี, เก๊าท์ santi manadee, เก๊าท์ santimanadee